รายละเอียดเพิ่มเติม
1. จุดประสงค์และคุณค่า
Aethir แก้ปัญหาการขาดแคลน GPU สำหรับงาน AI ระดับสูง ด้วยการสร้างตลาดแบบกระจายศูนย์ที่ใครก็สามารถนำพลัง GPU ที่ไม่ได้ใช้งาน (เช่น NVIDIA H100) มาร่วมให้บริการและรับโทเค็น ATH เป็นผลตอบแทน ธุรกิจต่าง ๆ สามารถเข้าถึงเครือข่ายนี้ด้วยต้นทุนต่ำกว่าผู้ให้บริการคลาวด์แบบดั้งเดิมถึง 40-90% พร้อมประสิทธิภาพการใช้งาน GPU สูงกว่า 70% (Aethir Cloud)
เครือข่ายนี้ให้บริการประมวลผลไปแล้วกว่า 971 ล้านชั่วโมง (ข้อมูลถึงกรกฎาคม 2025) กับลูกค้าใน 94 ประเทศ โดยเน้นสองกลุ่มหลักคือ
- AI – สำหรับการฝึกโมเดลภาษาขนาดใหญ่ เช่น GPT-5
- เกม – รองรับการสตรีมเกมผ่านคลาวด์ที่มีหน่วงเวลาต่ำกว่า 20 มิลลิวินาที
2. เทคโนโลยีและแรงจูงใจ
Aethir ผสานเทคโนโลยี DePIN (Decentralized Physical Infrastructure Networks) กับระบบ proof-of-stake:
- Cloud Hosts: ผู้ให้บริการ GPU ต้องวางเดิมพัน ATH เพื่อเข้าร่วมเครือข่าย
- Checker Nodes: โหนดตรวจสอบคุณภาพการให้บริการ
- ATH Vault: แปลงโทเค็น ATH ที่วางเดิมพันเป็น eATH ซึ่งเป็นตัวแทนสิทธิ์ในรายได้จากการใช้งาน GPU จริง
ระบบนี้สร้างสิ่งที่เรียกว่า "Compute Capital" – ผู้วางเดิมพันจะได้รับผลตอบแทนตามการใช้งาน GPU จริง ไม่ใช่แค่รางวัลโทเค็นที่เพิ่มจำนวนแบบเงินเฟ้อ เครือข่ายจะส่งคำขอประมวลผลไปยัง GPU ที่อยู่ใกล้ที่สุดทางภูมิศาสตร์โดยอัตโนมัติ ช่วยลดหน่วงเวลาได้ 60-80% เมื่อเทียบกับระบบคลาวด์แบบรวมศูนย์
3. การใช้งานโทเค็น
ATH มีบทบาทหลัก 3 ด้าน:
1. ชำระเงิน – ซื้อเวลาประมวลผล GPU
2. วางเดิมพัน (Staking) – รักษาความปลอดภัยเครือข่าย (ผ่านการรวมกับ EigenLayer)
3. การกำกับดูแล – ลงคะแนนเสียงเกี่ยวกับมาตรฐานฮาร์ดแวร์และการแบ่งปันกำไร
นอกจากนี้ ยังมีพูลวางเดิมพันเฉพาะที่ให้ผู้ใช้ได้รับรางวัลเพิ่มเติมในโทเค็นพันธมิตรจากโครงการ AI และเกมที่ใช้โครงสร้างพื้นฐานของ Aethir
สรุป
Aethir เปลี่ยนแนวคิดการประมวลผลบนคลาวด์ให้เป็นตลาดทรัพยากรแบบกระจายศูนย์ โดยใช้แรงจูงใจจากคริปโตเพื่อเชื่อมโยงการจัดหาโครงสร้างพื้นฐานกับความต้องการของ AI และเกม โมเดลผสมผสานระหว่างเครือข่าย GPU จริงและการเข้าถึงผ่านโทเค็น ทำให้ ATH เป็นทั้งสินทรัพย์ที่ใช้งานได้และพันธบัตรประมวลผลที่ให้ผลตอบแทน
คำถามเปิด: การประสานงานแบบกระจายศูนย์จะสามารถเทียบความน่าเชื่อถือกับผู้ให้บริการคลาวด์แบบรวมศูนย์ในระดับโลกได้หรือไม่?