รายละเอียดเพิ่มเติม
1. การเผาเหรียญ 1 ล้านล้านเหรียญ (ไตรมาส 3 ปี 2025)
ภาพรวม: BONK จะเผาเหรียญจำนวน 1 ล้านล้านเหรียญ (ประมาณ 1.2% ของจำนวนเหรียญทั้งหมด) เมื่อจำนวนผู้ถือเหรียญถึง 1 ล้านคน ปัจจุบัน ณ ปลายเดือนกรกฎาคม 2025 การเติบโตของผู้ถือเหรียญชะลอตัวลงเหลือ 2.1% ต่อสัปดาห์ (เทียบกับ 5.4% ในเดือนกรกฎาคม) ทำให้เป้าหมายนี้ล่าช้าเล็กน้อย กลไกนี้มีเป้าหมายเพื่อควบคุมอุปทานให้สมดุลกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น โดยจำนวนที่อยู่ที่ใช้งานประจำวันเพิ่มขึ้น 37% เมื่อเทียบปีต่อปี (CoinMarketCap Community)
ความหมาย: เป็นสัญญาณบวกสำหรับ BONK หากสำเร็จ แต่ยังมีความไม่แน่นอนเรื่องเวลาและความผันผวนของ memecoin ที่อาจเป็นความเสี่ยง
2. การรวม BonkFun กับ DeFi (ไตรมาส 4 ปี 2025)
ภาพรวม: BonkFun ซึ่งควบคุมการเปิดตัว memecoin บน Solana ถึง 55% วางแผนเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์ม DeFi ชั้นนำ เช่น Jupiter (ผู้รวบรวมการแลกเปลี่ยน) และ Raydium (DEX) แพลตฟอร์มนี้สร้างรายได้ประมาณ 17 ล้านดอลลาร์ต่อเดือนจากการซื้อคืน BONK ผ่านโครงสร้างค่าธรรมเนียม 50%
ความหมาย: มีแนวโน้มเป็นกลางถึงบวก – การครอบครองตลาดช่วยเสริมเครือข่ายให้แข็งแกร่ง แต่มีผู้ใช้ 23% ย้ายจากคู่แข่งอย่าง Pump.fun ในเดือนกรกฎาคม (Dune Analytics) ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของความเสี่ยงการสูญเสียผู้ใช้
3. Bonk Arena การต่อสู้แบบทีม (กันยายน 2025)
ภาพรวม: เกม “kill-to-earn” จะเพิ่มโหมดทีมและอาวุธ NFT ตามที่ผู้พัฒนา Bravo Ready ระบุ รายได้ 50% ยังคงถูกนำไปใช้ในการเผาเหรียญ BONK เพื่อเชื่อมโยงกิจกรรมเกมกับโทเคนโนมิกส์
ความหมาย: เป็นสัญญาณบวกหากมีการยอมรับเพิ่มขึ้น แต่ความผันผวนของ memecoin (สูงสุดในรอบ 94 วัน) อาจบดบังความต้องการที่ขับเคลื่อนด้วยประโยชน์ใช้สอย (CoinMarketCap Community)
สรุป
แผนงานของ BONK พยายามสร้างสมดุลระหว่างการลดจำนวนเหรียญ (การเผาเหรียญ) กับการกระตุ้นความต้องการ (เกมและ DeFi) แต่ยังมีความเสี่ยงจากการดำเนินงานและความเปราะบางของตลาดโดยรวม คำถามคือ การเติบโตของระบบนิเวศจะสามารถก้าวข้ามธรรมชาติของสินทรัพย์ประเภท meme ที่มีความเก็งกำไรได้หรือไม่?