สรุปย่อ
Boundless (ZKC) ร่วงลง 0.76% ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มลดลงที่กว้างขึ้นถึง -40.8% (7 วัน) และ -80.8% (30 วัน) สาเหตุหลักมาจากแรงขายต่อเนื่องหลังจากการปลดล็อกโทเค็นที่ได้รับจาก airdrop สัญญาณทางเทคนิคที่เป็นลบ และความกังวลเกี่ยวกับระบบ tokenomics ที่มีอัตราเงินเฟ้อสูง
- แรงขายจากการปลดล็อกโทเค็นยังคงอยู่ – มีการปลดล็อกโทเค็น 5–6% ของจำนวนทั้งหมดในช่วงเปิดตัว ทำให้เกิดแรงขายต่อเนื่อง
- ขายมากเกินไปแต่ยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัว – ค่า RSI ที่ 14.91 บ่งชี้ถึงความอ่อนแรงของตลาด แต่ความต้องการซื้อยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ราคาฟื้นตัว
- ความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ – การออกโทเค็นเพิ่ม 7% ต่อปี ทำให้เกิดความกลัวเรื่องการลดค่าของโทเค็นในระยะยาว
วิเคราะห์เชิงลึก
1. แรงขายหลังเปิดตัว (ผลกระทบเชิงลบ)
ภาพรวม: การเปิดตัว mainnet ของ ZKC เมื่อวันที่ 15 กันยายน ทำให้ราคาลดลงถึง 50% เนื่องจากมีการปล่อยโทเค็น 200 ล้านโทเค็น (คิดเป็น 20% ของจำนวนทั้งหมด) เข้าสู่ตลาด รวมถึง 15 ล้าน ZKC ที่แจกผ่าน Binance airdrop ผู้รับโทเค็นเหล่านี้ขายทันที ส่งผลให้เกิดแรงกดดันด้านสภาพคล่อง
ความหมาย: แม้จะมีความสนใจในช่วงแรก แต่ปริมาณโทเค็นที่ปลดล็อกออกมามากกว่าความต้องการซื้อ แม้ว่าจะมีการขึ้นทะเบียนในตลาดซื้อขายใหม่ ๆ เช่น Coinbase และ Upbit แรงขายจากผู้ถือรายแรกยังคงมีอยู่ ปริมาณการซื้อขายใน 24 ชั่วโมงที่ 52.3 ล้านดอลลาร์ (-4% เมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า) แสดงให้เห็นว่าการสะสมโทเค็นยังค่อนข้างอ่อนแอ
2. สัญญาณทางเทคนิค (แรงขายต่อเนื่อง)
ภาพรวม: ZKC ซื้อขายที่ราคา 0.32 ดอลลาร์ ลดลง 82% จากราคาเปิดตัวที่ 1.78 ดอลลาร์ ค่า RSI ใน 7 วันที่ 14.91 ซึ่งถือว่า oversold อย่างรุนแรง และค่า SMA 30 วันที่ 0.42 ดอลลาร์ บ่งชี้ถึงความอ่อนแรงของตลาด แต่ยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัวที่ชัดเจน
ความหมาย: สภาวะ oversold มักจะนำไปสู่การฟื้นตัวของราคา แต่ในขณะนี้ผู้ซื้อยังไม่เข้ามามากพอ การที่ราคาสามารถทะลุผ่านระดับ 0.328 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุด pivot จะเป็นสัญญาณสำคัญสำหรับการฟื้นตัวในระยะสั้น หากไม่สามารถผ่านจุดนี้ได้ แนวโน้มราคายังคงมีโอกาสลดลงต่อไป
3. ความไม่แน่นอนของ Tokenomics (ผลกระทบผสม)
ภาพรวม: ZKC มีอัตราเงินเฟ้อโทเค็นที่ 7% ต่อปี (ลดลงเหลือ 3% ภายใน 8 ปี) และไม่มีการจำกัดจำนวนสูงสุดของโทเค็น ซึ่งสร้างความกังวลเรื่องการลดค่าของโทเค็นในระยะยาว ขณะนี้มีโทเค็นหมุนเวียนในตลาดเพียง 20% เท่านั้น และรางวัลจากการ staking ยังเพิ่มแรงขายอีกด้วย
ความหมาย: แม้ว่าเทคโนโลยี ZK-proof ของ Boundless จะมีศักยภาพในระยะยาว แต่โมเดลเงินเฟ้อทำให้ผู้ถือโทเค็นไม่มั่นใจในการถือครองในช่วงที่การใช้งานเครือข่ายต่ำ ผู้ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบ (provers) ต้อง staking ZKC แต่ความต้องการใช้บริการพิสูจน์ลดลง ทำให้รางวัลค่าธรรมเนียมลดลง เกิดเป็นวงจรลบที่ส่งผลต่อราคา
สรุป
การลดลงของ ZKC สะท้อนถึงปัญหาหลังเปิดตัว ได้แก่ แรงขายจาก airdrop โครงสร้างทางเทคนิคที่อ่อนแอ และระบบ tokenomics ที่มีอัตราเงินเฟ้อสูง สำหรับการฟื้นตัว ควรติดตามปัจจัยกระตุ้นความต้องการ เช่น การเพิ่มขึ้นของกิจกรรมการสร้าง proof หรือการเผาโทเค็น
จุดที่ต้องจับตา: ZKC จะสามารถรักษาระดับแนวรับที่ 0.30 ดอลลาร์ ได้หรือไม่ หรือถ้าราคาหลุดระดับนี้ จะทำให้ราคาลดลงไปใกล้จุดต่ำสุดตลอดกาลที่ 0.24 ดอลลาร์ อีกครั้ง?