สรุปย่อ
ฐานโค้ดของ Chainlink แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาที่แข็งแกร่ง พร้อมการขยายข้ามเครือข่ายและเครื่องมือข้อมูลใหม่ ๆ
- เปิดตัว Candlestick API (12 สิงหาคม 2025) – เพิ่มข้อมูล OHLC สำหรับวิเคราะห์การซื้อขาย
- ขยาย Multi-Chain Data Feeds (10 สิงหาคม 2025) – รองรับมากกว่า 30 เครือข่าย เช่น Apechain, Berachain
- เปิดตัว Real World Asset Streams (4 สิงหาคม 2025) – เปิดใช้งานข้อมูลสินทรัพย์จริงบนเครือข่ายบล็อกเชน
- รองรับโทเค็น CCIP (3 สิงหาคม 2025) – เพิ่ม USDf, VSN, enzoBTC ในมาตรฐานข้ามเครือข่าย
รายละเอียดเชิงลึก
1. เปิดตัว Candlestick API (12 สิงหาคม 2025)
ภาพรวม: Chainlink Data Streams เปิดตัว API รูปแบบแท่งเทียน OHLC (Open-High-Low-Close) ซึ่งรวบรวมข้อมูลการซื้อขายสำหรับผลิตภัณฑ์อนุพันธ์และผลิตภัณฑ์ที่มีโครงสร้าง
ฟีเจอร์นี้ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงข้อมูลราคาที่มีความถี่ต่ำ เช่น แท่งเทียนรายชั่วโมง ราย 4 ชั่วโมง หรือรายวัน ได้โดยตรงบนเครือข่ายบล็อกเชน ซึ่งเสริมกับ Data Streams ที่มีความถี่สูงอยู่แล้ว โดย API นี้ใช้การรวบรวมข้อมูลนอกเครือข่ายเพื่อลดค่าแก๊สในขณะที่ยังคงความน่าเชื่อถือด้วยการตรวจสอบทางคริปโตกราฟี
ความหมาย: เป็นสัญญาณบวกสำหรับ LINK เพราะช่วยขยายการใช้งาน Chainlink ในแพลตฟอร์ม DeFi สำหรับการวิเคราะห์กราฟและการจัดการความเสี่ยงขั้นสูงโดยไม่ต้องพึ่งพาศูนย์กลาง (แหล่งที่มา)
2. ขยาย Multi-Chain Data Feeds (10 สิงหาคม 2025)
ภาพรวม: Chainlink เพิ่ม Data Feeds ให้กับเครือข่ายมากกว่า 30 แห่ง รวมถึง L2 เฉพาะทางอย่าง Berachain, Blast และเครือข่ายองค์กรอย่าง World Chain
การอัปเดตนี้ทำให้ราคา BTC, ETH และ LINK มีมาตรฐานเดียวกันในระบบนิเวศใหม่ ๆ โดยใช้กระบวนการ DevRel เดียวกันเพื่อเร่งการเปิดตัว
ความหมาย: เป็นข่าวกลาง ๆ สำหรับ LINK เพราะเป็นการขยายโครงสร้างพื้นฐานตามปกติ แต่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ Chainlink เป็น oracle เริ่มต้นสำหรับสภาพแวดล้อมหลายเครือข่ายที่กระจัดกระจาย (แหล่งที่มา)
3. เปิดตัว Real World Asset Streams (4 สิงหาคม 2025)
ภาพรวม: เปิดตัวสตรีมข้อมูลสินทรัพย์จริงบน Mainnet เช่น พันธบัตรรัฐบาลและอสังหาริมทรัพย์ โดยใช้เทคโนโลยี zero-knowledge proofs เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวในการตรวจสอบ
สตรีมเหล่านี้เชื่อมต่อกับระบบ Proof of Reserve ของ Chainlink ช่วยให้องค์กรสามารถแปลงสินทรัพย์เป็นโทเค็นได้พร้อมกับปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมาย
ความหมาย: เป็นสัญญาณบวกสำหรับ LINK เพราะเชื่อมโยงการใช้งานโปรโตคอลกับตลาดสินทรัพย์โทเค็นมูลค่ากว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็ว (แหล่งที่มา)
4. รองรับโทเค็น CCIP (3 สิงหาคม 2025)
ภาพรวม: โปรโตคอล Cross-Chain Interoperability Protocol (CCIP) เพิ่มการรองรับโทเค็น USDf (stablecoin), VSN (การกำกับดูแล DeFi) และ enzoBTC (Bitcoin แบบห่อหุ้ม)
การอัปเดตนี้ยังรวมถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพแก๊สสำหรับการโอนข้ามเครือข่าย ลดค่าธรรมเนียมลงประมาณ 15% เมื่อเทียบกับเวอร์ชัน 1.2
ความหมาย: เป็นข่าวกลาง ๆ สำหรับ LINK เพราะเป็นการอัปเกรดเล็กน้อย แต่ช่วยเพิ่มประโยชน์ของ CCIP สำหรับการชำระเงินข้ามเครือข่ายในระดับองค์กร (แหล่งที่มา)
สรุป
การอัปเดตในไตรมาส 3 ปี 2025 ของ Chainlink เน้นการขยายข้ามเครือข่ายและเครื่องมือข้อมูลระดับองค์กร ทำให้ Chainlink ยืนหยัดเป็นเลเยอร์เชื่อมต่อหลักของ Web3 ด้วยกิจกรรมของนักพัฒนาที่สูงกว่าคู่แข่งอย่างต่อเนื่อง (มากกว่า 363 เหตุการณ์บน GitHub ต่อเดือน) คำถามคือ LINK จะสามารถแยกตัวจากความผันผวนของตลาดโดยรวมได้หรือไม่ เมื่อการนำไปใช้ในองค์กรเติบโตขึ้น?