รายละเอียดเพิ่มเติม
1. การขยาย Interchain Security (2025)
ภาพรวม:
Cosmos กำลังขยายโมเดล Interchain Security (ICS) ซึ่งช่วยให้ผู้ตรวจสอบความถูกต้องจาก Cosmos Hub สามารถรักษาความปลอดภัยให้กับบล็อกเชนใหม่ ๆ เช่น dYdX และ Celestia พร้อมรับรางวัลไปด้วย ระบบ “ความปลอดภัยร่วมกัน” นี้ช่วยลดต้นทุนเริ่มต้นสำหรับบล็อกเชนใหม่และเพิ่มประโยชน์ใช้สอยของ ATOM
ความหมาย:
นี่เป็นข่าวดีสำหรับ ATOM เพราะอาจเพิ่มความต้องการในการวางเดิมพัน (staking) และรายได้สำหรับผู้ตรวจสอบความถูกต้อง อย่างไรก็ตาม การนำไปใช้ขึ้นอยู่กับว่าบล็อกเชนใหม่จะเลือกใช้ ICS แทนตัวเลือกอื่น เช่น parachains ของ Polkadot หรือไม่
2. การอัปเกรด Eureka (ไตรมาส 3 ปี 2025)
ภาพรวม:
การอัปเกรด Eureka (CoinDesk) ช่วยให้การเชื่อมต่อ IBC ระหว่าง Ethereum Virtual Machine (EVM) และเครือข่ายที่ใช้ Cosmos SDK เป็นไปโดยตรงโดยไม่ต้องพึ่งสะพานเชื่อมของบุคคลที่สาม
ความหมาย:
นี่เป็นข่าวที่มีแนวโน้มเป็นบวกสำหรับ ATOM เพราะการรองรับ Ethereum ที่ดีขึ้นอาจดึงดูดสภาพคล่องเข้ามา แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะทำให้ความสนใจลดลงจากนวัตกรรมที่เน้นเฉพาะ Cosmos ความสำเร็จของการอัปเกรดนี้ขึ้นอยู่กับการยอมรับของนักพัฒนาและปริมาณการใช้งานข้ามเครือข่าย
3. การผลักดันโครงสร้างพื้นฐานแบบกระจายศูนย์ (กันยายน 2025)
ภาพรวม:
Cosmos ร่วมมือกับ Pocket Network เพื่อกระจายโครงสร้างพื้นฐานของโหนด ลดการพึ่งพาผู้ให้บริการแบบรวมศูนย์ เช่น Hetzner และ AWS โดยจะมีมากกว่า 14 เครือข่าย Cosmos เช่น Akash และ Osmosis ใช้เครือข่ายรีเลย์ของ Pocket สำหรับบริการ RPC
ความหมาย:
นี่เป็นข่าวดีสำหรับ ATOM เพราะเครือข่ายที่มีความทนทานสูงขึ้นอาจดึงดูดผู้ตรวจสอบความถูกต้องจากสถาบันต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม การย้ายโหนดอาจทำให้เกิดปัญหาทางเทคนิคในระยะสั้น
สรุป
Cosmos มุ่งเน้นการพัฒนาการเชื่อมต่อระหว่างบล็อกเชนและความแข็งแกร่งของโครงสร้างพื้นฐาน โดยมี Interchain Security และการรวมกับ Ethereum เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ แม้ว่าการอัปเกรดเหล่านี้จะช่วยเสริมบทบาทของ ATOM ในระบบนิเวศข้ามเครือข่าย แต่ก็ยังมีความเสี่ยงจากการนำไปใช้ของนักพัฒนาและการแข่งขันในตลาด คำถามคือเรื่องราว “Internet of Blockchains” ของ Cosmos จะก้าวนำระบบนิเวศคู่แข่งอย่าง Polkadot ในปี 2026 หรือไม่?