สรุปย่อ
การอัปเดตโค้ดของ Ethena USDe มุ่งเน้นไปที่การขยายการเชื่อมต่อกับ DeFi และการพัฒนากลไกการสร้างผลตอบแทนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
- Liquid Leverage บน Aave (29 กรกฎาคม 2025) – เปิดใช้งานการทำ yield farming แบบมีเลเวอเรจด้วยการฝาก sUSDe/USDe
- BNB Chain Pendle Pool (4 มิถุนายน 2025) – เปิดตัวพูลสภาพคล่องใหม่สำหรับ USDe บน BNB Chain
รายละเอียดเพิ่มเติม
1. Liquid Leverage บน Aave (29 กรกฎาคม 2025)
ภาพรวม: ผู้ใช้งานสามารถฝากเหรียญ sUSDe และ USDe ในสัดส่วน 50/50 บนแพลตฟอร์ม Aave เพื่อรับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นผ่านตำแหน่งเลเวอเรจ
การเชื่อมต่อนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถกู้ stablecoins เช่น USDC, USDT, USDS โดยใช้สินทรัพย์ที่ถูกค้ำประกันเป็นหลักประกัน พร้อมกับได้รับรางวัลย้อนหลังตั้งแต่วันเปิดตัว Aave’s sUSDe e-mode รองรับ USDe แล้ว ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทุน
ความหมาย: นี่เป็นสัญญาณบวกสำหรับ USDe เพราะช่วยกระตุ้นสภาพคล่องให้ลึกขึ้นและเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้โดยตรง เชื่อมโยงความต้องการ USDe กับกลยุทธ์การสร้างผลตอบแทน (แหล่งที่มา)
2. BNB Chain Pendle Pool (4 มิถุนายน 2025)
ภาพรวม: Ethena ขยายการเชื่อมต่อกับ Pendle โดยเพิ่มพูล USDe บน BNB Chain ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการกู้ยืมถึง 300 ล้านดอลลาร์
พูลนี้อนุญาตให้ผู้ใช้ล็อก USDe เพื่อรับผลตอบแทนในอัตรา 8–11% ต่อปี และสามารถนำไปใช้เลเวอเรจในโปรโตคอล DeFi อื่น ๆ เช่น Lista DAO
ความหมาย: นี่เป็นข่าวกลาง ๆ สำหรับ USDe เพราะช่วยขยายการใช้งานข้ามเชน แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงจากการพึ่งพาแพลตฟอร์มภายนอกอย่าง Pendle เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน (แหล่งที่มา)
สรุป
การอัปเดตโค้ดของ Ethena เน้นกลยุทธ์การสร้างผลตอบแทนที่สามารถขยายตัวได้และการทำงานร่วมกันข้ามเชน ทำให้ USDe กลายเป็น stablecoin หลักในโลก DeFi อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบจะส่งผลอย่างไรต่อโมเดลการสร้างผลตอบแทนแบบอัลกอริทึมนี้เมื่อมีการนำไปใช้มากขึ้น?