สรุปย่อ
GMX คือแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนแบบกระจายศูนย์ที่เปิดให้เทรดสปอตและฟิวเจอร์สแบบ perpetual พร้อมเลเวอเรจ โดยใช้กลไกพูลสภาพคล่องและราคาที่อ้างอิงจาก oracle
- ศูนย์กลางอนุพันธ์แบบกระจายศูนย์ – เทรดคริปโตด้วยเลเวอเรจสูงสุดถึง 100 เท่า ผ่านกระเป๋าเงินที่ผู้ใช้ควบคุมเอง
- พูลสภาพคล่องหลายเชน – พูล "GLP" ที่ไม่เหมือนใคร ช่วยให้ผู้ให้สภาพคล่องได้รับค่าธรรมเนียม
- การดำเนินการด้วย oracle – ราคามาจาก Chainlink และการรวมข้อมูลจากหลายตลาด เพื่อลดปัญหาการสลิปเพจ
รายละเอียดเพิ่มเติม
1. ฟังก์ชันหลัก
GMX ทำงานเป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนแบบกระจายศูนย์ (DEX) สำหรับการเทรดฟิวเจอร์ส perpetual และสปอต โดยไม่มีสมุดคำสั่งซื้อขายแบบเดิม แต่จะดำเนินการเทรดผ่านพูลสภาพคล่องที่มีสินทรัพย์หลากหลาย (GLP) เช่น BTC, ETH และ stablecoins การออกแบบนี้ช่วยลดการสลิปเพจและเปิดโอกาสให้ผู้ให้สภาพคล่องได้รับค่าธรรมเนียมจากการแลกเปลี่ยน เลเวอเรจ และการล้างสถานะ (GMX Docs)
2. สถาปัตยกรรมทางเทคนิค
โปรโตคอลใช้ Chainlink Data Streams เพื่อดึงข้อมูลราคาจากหลายตลาดที่มีปริมาณการซื้อขายสูงแบบเรียลไทม์ ช่วยป้องกันการบิดเบือนตลาด GMX V2 จะส่งคำสั่งทั้งหมดผ่านพูลสภาพคล่องและอ้างอิงราคาจาก oracle โดยตรง ไม่ต้องพึ่งพาผู้สร้างตลาดภายนอก ทำให้การเทรดที่มูลค่าสูงถึง 1 ล้านดอลลาร์ (ข้อมูลปี 2025) ไม่มีผลกระทบต่อราคา (GMX V2 Docs)
3. โทเคนและการบริหารจัดการ
- $GMX: โทเคนสำหรับการกำกับดูแล ให้สิทธิ์ผู้ถือโหวตเรื่องการอัปเกรดโปรโตคอล และรับส่วนแบ่งค่าธรรมเนียม 30% ของแพลตฟอร์ม
- GLP: โทเคนพูลสภาพคล่องที่แสดงถึงส่วนแบ่งในพูล ผู้ถือจะได้รับค่าธรรมเนียม 70% ในรูปแบบ ETH หรือ AVAX
การตัดสินใจเรื่องโครงสร้างค่าธรรมเนียมและการเพิ่มสินทรัพย์ใหม่ ๆ จะทำผ่านการกำกับดูแลแบบกระจายศูนย์โดยผู้ถือโทเคน GMX
สรุป
GMX ผสานการเทรดเลเวอเรจแบบกระจายศูนย์เข้ากับโมเดลพูลสภาพคล่องที่ยั่งยืน โดยเน้นค่าธรรมเนียมต่ำและการควบคุมเงินทุนด้วยตัวเอง การออกแบบแบบผสมผสานระหว่าง oracle และพูลช่วยแก้ไขปัญหาสำคัญใน DeFi เช่น การแทรกแซงคำสั่งซื้อและการสลิปเพจ ขณะที่ GMX กำลังขยายไปยัง Bitcoin Layer 2 อย่าง Botanix การมีพูลสภาพคล่องข้ามเชนจะเปลี่ยนโฉมตลาดอนุพันธ์แบบกระจายศูนย์อย่างไร?