เจาะลึก
1. จุดประสงค์และคุณค่า
Kusama ทำหน้าที่เป็น “เครือข่าย Canary” ของ Polkadot ซึ่งเป็นคำเปรียบเทียบจากการตรวจสอบความปลอดภัยในเหมืองถ่านหิน นักพัฒนาจะใช้ Kusama ในการทดสอบการอัปเกรดบล็อกเชนที่ล้ำสมัย รูปแบบการกำกับดูแล และ parachains (บล็อกเชนเฉพาะทาง) ในสภาพแวดล้อมจริงที่มีความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ เพื่อช่วยให้ทีมงานสามารถค้นหาจุดอ่อนก่อนนำไปใช้บน Polkadot ที่เน้นความเสถียรสูง
ด้วยลักษณะเป็นเครือข่ายทดลอง Kusama จึงดึงดูดโครงการที่ต้องการพัฒนารวดเร็ว เช่น แอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (dApps), โปรโตคอล DeFi และแพลตฟอร์ม NFT ต่าง ๆ แตกต่างจาก testnets ทั่วไปที่ไม่มีมูลค่า โทเค็น KSM ของ Kusama มีมูลค่าจริง ทำให้เกิดแรงจูงใจในการทดสอบอย่างเข้มข้น
2. เทคโนโลยีและสถาปัตยกรรม
Kusama ถูกสร้างขึ้นด้วย Substrate ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์กบล็อกเชนแบบโมดูลาร์ที่พัฒนาโดยผู้สร้าง Polkadot Kusama ใช้เทคโนโลยีหลักเดียวกับ Polkadot แต่มีรอบการอัปเกรดที่รวดเร็วกว่า ส่วนประกอบสำคัญ ได้แก่
- Relay Chain: สายโซ่กลางที่ประสานงานการยืนยันและการส่งข้อความข้ามสายโซ่
- Parachains: บล็อกเชนเฉพาะทางที่เช่าช่องว่างเพื่อจัดการงานเฉพาะ เช่น ความเป็นส่วนตัว หรือเกม
- Nominated Proof-of-Stake (NPoS): ผู้ตรวจสอบเครือข่าย (validators) รักษาความปลอดภัย ขณะที่ผู้เสนอชื่อ (nominators) สนับสนุนด้วยการวางเดิมพัน KSM
โค้ดของ Kusama ใกล้เคียงกับ Polkadot มาก แต่กระบวนการกำกับดูแลของ Kusama เร็วกว่า เช่น การลงประชามติจะเสร็จสิ้นภายใน 7 วัน ขณะที่ Polkadot ใช้เวลาถึง 28 วัน
3. โทเคโนมิกส์และการกำกับดูแล
KSM มีบทบาทหลัก 3 ด้าน ได้แก่
- การกำกับดูแล: ผู้ถือโทเค็นเสนอและลงคะแนนเสียงเกี่ยวกับการอัปเกรด การใช้จ่ายจากคลัง และการประมูล parachain
- การวางเดิมพัน (Staking): ผู้ตรวจสอบและผู้เสนอชื่อได้รับรางวัล KSM จากการรักษาความปลอดภัยเครือข่าย โดยมีอัตราเงินเฟ้อประมาณ 20% ต่อปี
- การผูกมัด parachain: ทีมงาน “ผูกมัด” (ล็อก) KSM เพื่อเช่าช่องว่าง parachain ผ่านการระดมทุนแบบ crowdloan
คลังเงินทุนของ Kusama สนับสนุนการพัฒนาในระบบนิเวศ โดยได้รับเงินจากค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม การลงโทษ (slashing) และเงินมัดจำจากการประมูล parachain
สรุป
Kusama คือสนามทดลองความเร็วสูงสำหรับนวัตกรรมบล็อกเชน ที่ผสมผสานความเสี่ยงและผลประโยชน์จริงเพื่อพัฒนาระบบนิเวศของ Polkadot การออกแบบแบบเปิดและการกำกับดูแลโดยชุมชนทำให้ Kusama เป็นศูนย์กลางสำหรับนักพัฒนาที่เน้นความคล่องตัวมากกว่าความเสถียร
แล้วต่อไปจะเป็นอย่างไร? บทบาทของ Kusama จะพัฒนาไปพร้อมกับการเติบโตของ Polkadot หรือจะยังคงเป็นห้องทดลองสำหรับแนวคิด Web3 ที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์?