รายละเอียดเชิงลึก
1. แรงต้านทางเทคนิค (ผลกระทบเชิงลบ)
QNT เผชิญแรงต้านอย่างหนักที่ระดับ Fibonacci retracement 0.618 ($105.93) ซึ่งเป็นจุดที่มีคำสั่งขายสะสมถึง 60% ในอดีต ดัชนี RSI-14 อยู่ที่ 40.83 แสดงถึงแรงซื้อที่อ่อนแรง แม้ว่าราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบข้างเคียงกัน – เป็นสัญญาณ divergence เชิงลบ
หมายความว่า: การพยายามทะลุผ่าน $105 ที่ล้มเหลวซ้ำ ๆ บ่งบอกถึงความเหนื่อยล้าของผู้ซื้อ โดยมีเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 30 วัน (SMA) ที่ $102.37 เป็นแรงต้านเพิ่มเติม นักลงทุนจึงลดการถือครองจนกว่า QNT จะกลับมายืนเหนือ $100 อย่างชัดเจน
2. สภาพคล่องลดลง (ผลกระทบผสม)
ปริมาณการซื้อขายคริปโตทั่วโลกลดลง 45% เหลือ $181 พันล้านใน 24 ชั่วโมง (CoinMarketCap) ขณะที่อัตราส่วน turnover ของ QNT (ปริมาณการซื้อขายต่อมูลค่าตลาด) อยู่ที่เพียง 1.35% ต่ำกว่าระดับ 2% ซึ่งถือว่าสภาพคล่องดี
หมายความว่า: หนังสือคำสั่งซื้อขายที่บางทำให้ราคาผันผวนได้ง่าย ปริมาณการซื้อขาย QNT ลดลง 20% (จาก $15.89 ล้านเหลือ $12.58 ล้าน) ทำให้คำสั่งขายเล็กน้อยสามารถกดราคาลงได้
3. การทำกำไรจาก Fusion Testnet (ผลกระทบเป็นกลาง)
Fusion testnet ของ Quant ที่จะเปิดตัวในเดือนกันยายน 2025 จะช่วยให้สินทรัพย์ข้ามเครือข่ายสามารถทำงานร่วมกันได้ แม้จะเป็นข่าวดีในระยะยาว แต่บางนักลงทุนเลือกขายทำกำไรหลังราคาพุ่งขึ้นในวันที่ 12 กันยายน (ราคาเพิ่มขึ้น) ไปที่ $102.54 (+1.8%)
หมายความว่า: เหตุการณ์สำคัญมักกระตุ้นพฤติกรรม “ซื้อข่าวลือ ขายข่าว” โดย QNT เพิ่มขึ้น 7.45% ใน 90 วัน เทียบกับ BTC ที่เพิ่ม 4.02% การทำกำไรใกล้ $100 จึงเป็นการบริหารความเสี่ยงที่สมเหตุสมผล
สรุป
การปรับตัวลดลงของ QNT มาจากแรงต้านทางเทคนิค สภาพคล่องต่ำที่ทำให้การขายมีผลกระทบมากขึ้น และความระมัดระวังก่อนการอัปเกรดเครือข่ายครั้งใหญ่ เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันที่ $96.46 ยังคงเป็นแนวรับสำคัญ หากราคาหลุดแนวรับนี้อย่างต่อเนื่อง อาจส่งสัญญาณการปรับฐานลึกขึ้น
จุดที่ต้องจับตา: QNT จะสามารถรักษาระดับ $95-$97 ซึ่งเป็นช่วงที่ 83% ของที่อยู่ถือครองกำไรได้ตามข้อมูลจาก IntoTheBlock หรือไม่ หากไม่สำเร็จ อาจเกิดการขายตัดขาดทุนเป็นลูกโซ่จนราคาลงไปถึง $90 ได้