สรุปย่อ
การพัฒนา Rocket Pool กำลังดำเนินไปตามเป้าหมายสำคัญดังนี้:
1. เปิดตัว Saturn Mainnet (ไตรมาส 4 ปี 2025) – ผ่านการทดสอบขั้นสุดท้ายแล้ว รองรับผู้ตรวจสอบเครือข่าย 4 ETH และ MEGAPOOLS
2. รวม RockSolid rETH Vault (ปี 2025) – นำเสนอกลยุทธ์ DeFi ระดับสถาบันผ่านหน้าเว็บไซต์ของ Rocket Pool
3. เข้าร่วมเป็นสมาชิก Balancer Alliance (ปี 2025) – เพิ่มสภาพคล่องของ rETH บน Ethereum L2 ต่างๆ
รายละเอียดเชิงลึก
1. เปิดตัว Saturn Mainnet (ไตรมาส 4 ปี 2025)
ภาพรวม:
การอัปเกรด Saturn ซึ่งอยู่ในขั้นตอน devnet ที่ 4 จะเพิ่มจำนวนผู้ตรวจสอบเครือข่ายเป็น 4 ETH (ช่วยลดอุปสรรคในการเข้าร่วมของผู้ดูแลโหนด) และเพิ่ม MEGAPOOLS เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการสเตก ETH การเปิดตัวบน mainnet จะเกิดขึ้นหลังจากผ่านการทดสอบสุดท้ายที่จำลองสถานการณ์จริง (Rocket Pool X)
ความหมาย:
- เชิงบวก: ลดต้นทุนฮาร์ดแวร์สำหรับผู้ดูแลโหนด ซึ่งอาจเพิ่มจำนวนผู้เข้าร่วมเครือข่ายและการใช้งาน rETH
- ความเสี่ยง: หากเกิดความล่าช้าหรือปัญหาทางเทคนิคในช่วงย้ายสู่ mainnet อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในระยะสั้น
2. รวม RockSolid rETH Vault (ปี 2025)
ภาพรวม:
RockSolid ซึ่งได้รับการสนับสนุนเงินทุนเริ่มต้น 2.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมี Rocket Pool เป็นหนึ่งในผู้ลงทุน จะเปิดตัว rETH vault แบบ white-labeled ที่ช่วยให้องค์กรและ DAO สามารถเข้าถึงกลยุทธ์สร้างผลตอบแทน เช่น การให้กู้ยืมและการทำฟาร์มสภาพคล่อง ผ่านอินเทอร์เฟซของ Rocket Pool โดยตรง (The Block)
ความหมาย:
- เชิงบวก: การไหลเข้าของเงินทุนจากสถาบันอาจช่วยเพิ่มความต้องการ rETH และทำให้ราคาของ rETH ใกล้เคียงกับ ETH มากขึ้น
- เป็นกลาง: ความสำเร็จขึ้นอยู่กับความยั่งยืนของผลตอบแทนในตลาด DeFi และความชัดเจนด้านกฎระเบียบ
3. เข้าร่วมเป็นสมาชิก Balancer Alliance (ปี 2025)
ภาพรวม:
มีข้อเสนอในการบริหารจัดการเพื่อรวม Rocket Pool เข้ากับเครือข่ายสภาพคล่องของ Balancer โดยเน้นที่พูล rETH/WETH บนเครือข่าย Arbitrum, Optimism และ Base พร้อมรางวัล RPL มูลค่า 7,600 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์สำหรับสภาพคล่องบน mainnet (Balancer Forum)
ความหมาย:
- เชิงบวก: การเพิ่มสภาพคล่องของ rETH จะช่วยลดการลื่นไหลของราคา (slippage) ทำให้ดึงดูดนักเทรดรายใหญ่
- ความเสี่ยง: โปรโตคอลคู่แข่ง เช่น Lido อาจนำกลยุทธ์นี้ไปใช้ ทำให้ข้อได้เปรียบของ Rocket Pool ลดลง
สรุป
แผนงานของ Rocket Pool มุ่งเน้นไปที่การขยายขนาดเครือข่าย (Saturn), การนำไปใช้ในระดับสถาบัน (RockSolid) และการเพิ่มประสิทธิภาพสภาพคล่อง (Balancer) แม้ว่าการอัปเกรดเหล่านี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งในตลาด liquid staking แต่ความเสี่ยงจากการดำเนินงานและการแข่งขันในตลาดยังคงเป็นปัจจัยสำคัญ คำถามที่น่าสนใจคือ การเปลี่ยนแปลงของระบบสเตก Ethereum จะส่งผลอย่างไรต่อโทเค็น RPL ที่เน้นการใช้งานในอนาคต?