สรุปย่อ
การพัฒนา Sahara AI กำลังดำเนินไปตามเป้าหมายสำคัญดังนี้:
1. ขยายตลาด AI Marketplace (ไตรมาส 1 ปี 2025) – เพิ่มเครื่องมือสำหรับการนำโมเดลไปใช้งานและบริการข้อมูลจากชุมชน
2. เปิดตัว Sahara Studio (ไตรมาส 2 ปี 2025) – ชุดเครื่องมือครบวงจรสำหรับการฝึกสอน AI การนำไปใช้งาน และการจัดการงานอย่างมีประสิทธิภาพ
3. ขยายระบบนิเวศ Mainnet (หลังไตรมาส 3 ปี 2025) – ขยายโครงสร้างพื้นฐาน AI แบบกระจายอำนาจและการบริหารจัดการหลังเปิดใช้งาน Mainnet
รายละเอียดเพิ่มเติม
1. ขยายตลาด AI Marketplace (ไตรมาส 1 ปี 2025)
ภาพรวม:
AI Marketplace ที่เปิดตัวในไตรมาส 1 ปี 2025 ช่วยให้นักพัฒนาสามารถขออนุญาตใช้ชุดข้อมูล นำโมเดลไปใช้งาน และเข้าถึงทรัพยากรคอมพิวเตอร์บนเครือข่ายบล็อกเชนได้ อัปเดตล่าสุดรวมถึงการติดป้ายข้อมูลโดยชุมชนและระบบเก็บข้อมูลเข้ารหัสเพื่อความปลอดภัยในการฝึกสอนโมเดล
ความหมาย:
นี่เป็นสัญญาณบวกสำหรับ SAHARA เพราะเชื่อมโยงการใช้งานโทเค็นโดยตรงกับกิจกรรมพัฒนา AI การที่นักพัฒนาหันมาใช้มากขึ้นจะเพิ่มความต้องการโทเค็น SAHARA สำหรับการชำระเงินและขออนุญาตใช้ข้อมูล ความเสี่ยงคือการนำเครื่องมือ AI แบบกระจายอำนาจไปใช้จริงอาจช้ากว่าที่คาดไว้
2. เปิดตัว Sahara Studio (ไตรมาส 2 ปี 2025)
ภาพรวม:
Sahara Studio เปิดตัวกลางปี 2025 โดยมีเครื่องมือสำหรับปรับแต่งโมเดล การนำไปใช้งานที่ขยายได้ และการจัดการงานแบบเรียลไทม์ โปรแกรมเข้าถึงล่วงหน้าได้ดึงดูดนักพัฒนากว่า 200 คน ตามข้อมูลจาก Sahara AI’s blog
ความหมาย:
สถานการณ์นี้เป็นกลางถึงบวก เพราะเครื่องมือที่ใช้งานง่ายจะช่วยดึงดูดผู้ใช้ในองค์กร แต่การแข่งขันจากแพลตฟอร์ม AI แบบรวมศูนย์ เช่น AWS SageMaker อาจเป็นอุปสรรคในการนำไปใช้
3. ขยายระบบนิเวศ Mainnet (หลังไตรมาส 3 ปี 2025)
ภาพรวม:
Sahara Chain Mainnet เปิดใช้งานในไตรมาส 3 ปี 2025 ทำให้สามารถบริหารจัดการและวางเดิมพันบนเครือข่ายได้ หลังเปิดใช้งานโฟกัสไปที่การสร้างพันธมิตรกับองค์กร เช่น การร่วมมือกับ AWS และขยายแพลตฟอร์มบริการข้อมูลให้มีผู้ร่วมมากกว่า 5 ล้านคนภายในปี 2026
ความหมาย:
นี่เป็นสัญญาณบวกในระยะยาว เพราะการทำงาน AI บนเครือข่ายที่ตรวจสอบได้จะช่วยให้ SAHARA แตกต่างจาก AI แบบกระจายอำนาจอื่น ๆ การที่ผู้ถือโทเค็นมีส่วนร่วมในการบริหารอาจช่วยลดความผันผวนของราคาได้หากมีการเข้าร่วมมากขึ้น
สรุป
แผนงานของ Sahara AI มุ่งเน้นการสร้างบทบาทสำคัญในโครงสร้างพื้นฐาน AI แบบกระจายอำนาจ โดยการใช้งานโทเค็นขึ้นอยู่กับการนำไปใช้ของนักพัฒนาและองค์กร แม้ว่าการปลดล็อกโทเค็นในช่วงที่ผ่านมา (เช่น มูลค่า 6.9 ล้านดอลลาร์ในเดือนกรกฎาคม 2025) จะทำให้เกิดความผันผวนระยะสั้น แต่โครงการนี้สอดคล้องกับแนวโน้ม AI บนบล็อกเชนที่มีศักยภาพเติบโตสูง คำถามคือ โมเดลที่ขับเคลื่อนโดยชุมชนของ Sahara จะสามารถแซงหน้าทางเลือกแบบรวมศูนย์ในภาคสำคัญ เช่น การดูแลสุขภาพและโลจิสติกส์ ได้หรือไม่?