เจาะลึก
1. จุดประสงค์และคุณค่า
Sei ตั้งเป้าที่จะเป็นเลเยอร์การชำระเงินที่เร็วที่สุดสำหรับการเงินบนบล็อกเชน โดยเน้นตลาดที่ต้องการธุรกรรมความถี่สูง เช่น ตลาดแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจ (DEXs) เกม และ DeFi สำหรับสถาบัน โครงสร้างพื้นฐานของ Sei ช่วยขจัดปัญหาคอขวดในบล็อกเชนแบบเดิม ๆ ด้วยการให้ความสำคัญกับความเร็วและการขยายตัว ทำให้รองรับการใช้งานอย่างการเทรดแบบเรียลไทม์และธุรกรรมที่ขับเคลื่อนด้วย AI
2. เทคโนโลยีและสถาปัตยกรรม
เครื่องมือประมวลผลแบบขนานของ Sei ช่วยให้สามารถประมวลผลธุรกรรมหลายรายการพร้อมกันได้ โดยสามารถรองรับธุรกรรมได้สูงถึง 200,000 รายการต่อวินาที (TPS) หลังการอัปเกรด Giga โดยผสมผสาน:
- ความเข้ากันได้กับ EVM: รองรับเครื่องมือ Ethereum เช่น MetaMask และสมาร์ตคอนแทรกต์ที่เขียนด้วย Solidity
- พื้นฐานจาก Cosmos SDK: ใช้ระบบ consensus แบบ Tendermint เพื่อความแน่นอนของธุรกรรมที่รวดเร็ว
- Autobahn consensus: ระบบ multi-proposer ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการสร้างบล็อกและลดความหน่วงเวลา
แนวทางแบบผสมนี้ช่วยให้นักพัฒนาสามารถปล่อยแอปพลิเคชันที่เป็น native ของ Ethereum ได้พร้อมกับได้รับประโยชน์จากประสิทธิภาพของ Sei
3. ระบบนิเวศและความแตกต่าง
ระบบนิเวศของ Sei เติบโตอย่างแข็งแกร่งด้วย:
- การนำ stablecoin มาใช้: การผสาน USDC แบบ native ผ่าน Circle’s Cross-Chain Transfer Protocol (CCTP V2) และโครงการนำร่อง stablecoin ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐในรัฐไวโอมิง
- การยอมรับในระดับสถาบัน: การยื่นขอ ETF เช่น Canary Capital และ ETP ที่ได้รับการควบคุมในยุโรป
- การผสมผสานเกมและ DeFi: รองรับเกม Web3 ชั้นนำอย่าง Ascend Universe ที่มีความเร็วธุรกรรมต่ำกว่า 1 วินาที
แตกต่างจากคู่แข่งอื่น ๆ Sei สามารถสร้างสมดุลระหว่าง การเข้าถึง EVM กับ ประสิทธิภาพระดับ Cosmos ทำให้เป็นสะพานเชื่อมระหว่างฐานนักพัฒนาของ Ethereum กับบล็อกเชนที่รองรับธุรกรรมจำนวนมาก
สรุป
Sei คือบล็อกเชนยุคใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อความเร็วและการขยายตัว ผสานความเข้ากันได้กับ EVM เข้ากับโครงสร้างพื้นฐานระดับสถาบัน การเติบโตของระบบนิเวศตั้งแต่ stablecoins ไปจนถึงเกมสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ในการขับเคลื่อนแอปพลิเคชันทางการเงินในโลกจริง โมเดลการประมวลผลแบบขนานของ Sei จะเปลี่ยนวิธีที่บล็อกเชนจัดการกับการเทรดความถี่สูงและเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วย AI ได้หรือไม่?