เจาะลึก
1. วัตถุประสงค์และคุณค่า
Stellar มุ่งแก้ไขปัญหาความไม่สะดวกในระบบการเงินโลก โดยเฉพาะการชำระเงินข้ามประเทศและการโอนเงินระหว่างบุคคล มันช่วยให้องค์กรสามารถแปลงสินทรัพย์ เช่น สเตเบิลคอยน์ พันธบัตร หรือกองทุน เป็นโทเค็น และทำธุรกรรมได้ภายในไม่กี่วินาทีด้วยค่าธรรมเนียมที่ต่ำมาก ความร่วมมือกับบริษัทใหญ่ เช่น Visa, MoneyGram และ Franklin Templeton แสดงให้เห็นบทบาทของ Stellar ในการเชื่อมโยงการเงินแบบดั้งเดิมกับบล็อกเชน (CoinMarketCap)
เครือข่ายนี้ยังเน้นการส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการเงินสำหรับผู้ที่ไม่มีบัญชีธนาคาร โดยมีพันธมิตรในแอฟริกา ละตินอเมริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น การร่วมมือกับ MoneyGram ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแปลง USDC สเตเบิลคอยน์เป็นเงินสดได้ที่จุดให้บริการจริง (Coindesk)
2. เทคโนโลยีและสถาปัตยกรรม
Stellar ใช้ Stellar Consensus Protocol (SCP) ซึ่งแทนที่การขุดเหมืองด้วยระบบการยืนยันแบบ federated Byzantine agreement ที่โหนดที่เชื่อถือได้จะตรวจสอบธุรกรรมภายใน 3–5 วินาที ทำให้เร็วและประหยัดพลังงานกว่าบล็อกเชนที่ใช้ proof-of-work
ในปี 2024 ได้เปิดตัว Soroban แพลตฟอร์มสมาร์ตคอนแทรกต์ที่เขียนด้วยภาษา Rust เพื่อรองรับแอป DeFi และสินทรัพย์ที่ถูกแปลงเป็นโทเค็น ส่วน Protocol 23 ที่จะมาในปี 2025 จะเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลธุรกรรมแบบขนาน ทำให้รองรับธุรกรรมได้ถึง 5,000 รายการต่อวินาที (X Post)
3. โทเคนโนมิกส์และการบริหารจัดการ
XLM มีจำนวนจำกัดที่ 50 พันล้านโทเค็น (โดยมีประมาณ 32 พันล้านโทเค็นหมุนเวียนในตลาด) ใช้สำหรับ:
- ชำระค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม (0.00001 XLM ต่อการดำเนินการหนึ่งครั้ง)
- ทำหน้าที่เป็นสกุลเงินกลางในการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์หลายประเภท เช่น การแปลง USD เป็น EUR ผ่าน XLM
- ป้องกันสแปมด้วยค่าธรรมเนียมที่ต่ำมาก
มูลนิธิ Stellar Development Foundation (SDF) ดูแลการอัปเกรดโปรโตคอลและความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ โดยเน้นการเติบโตของระบบนิเวศมากกว่าการควบคุมโดยตรง
สรุป
Stellar เป็นบล็อกเชนที่ออกแบบมาเพื่อรองรับแอปพลิเคชันทางการเงินระดับองค์กร โดยผสมผสานความสอดคล้องกับกฎระเบียบ ต้นทุนต่ำ และความร่วมมือกับผู้เล่นในระบบการเงินแบบดั้งเดิม การพัฒนาไปสู่ DeFi และสินทรัพย์ในโลกจริงทำให้ Stellar เป็นสะพานเชื่อมระหว่างระบบเก่าและโลกคริปโต แล้วการเน้นเรื่องการทำงานร่วมกันของ Stellar จะทำให้มันกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญสำหรับ CBDCs และระบบชำระเงินระดับโลกในอนาคตได้หรือไม่?