เจาะลึก
1. แรงซื้อทางเทคนิค (ผลบวก)
ภาพรวม: SAND สามารถทะลุแนวต้านที่ $0.295 ซึ่งเคยเป็นจุดกดดันราคามาก่อนหน้านี้ ดัชนี RSI 14 วันที่ 52.4 บ่งชี้ว่ายังมีโอกาสขึ้นต่อได้ ขณะที่ MACD histogram กลับมาเป็นบวกครั้งแรกในรอบหลายสัปดาห์
ความหมาย: นักลงทุนที่ใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคน่าจะเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของการขึ้นราคาครั้งนี้ โดยมองว่าการทะลุแนวต้านเป็นสัญญาณของการควบคุมตลาดในทิศทางขาขึ้น แนวต้านถัดไปอยู่ที่ระดับ Fibonacci 0.382 ($0.304) ส่วนแนวรับอยู่ที่ $0.285
สิ่งที่ควรจับตา: หากราคาปิดเหนือ $0.30 อย่างต่อเนื่อง อาจกระตุ้นการซื้อจากระบบอัตโนมัติ แต่ถ้าราคาต่ำกว่า $0.29 อาจเกิดแรงขายทำกำไร
2. การอัปเกรดแพลตฟอร์มและความร่วมมือ (ผลบวก)
ภาพรวม: การเปิดตัว Game Maker 0.12 เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม เพิ่มฟีเจอร์ห้องเล่นหลายคน การบันทึกความคืบหน้า และเครื่องมือสร้าง NPC แบบไม่ต้องเขียนโค้ด นอกจากนี้ ความร่วมมือกับ Casio ในวันที่ 12 สิงหาคม สำหรับ NFT ของ G-Shock ยังเพิ่มประโยชน์ในโลกเมตาเวิร์ส
ความหมาย: การอัปเดตเหล่านี้ช่วยให้ผู้สร้างเนื้อหามีแรงจูงใจในการใช้งานแพลตฟอร์มมากขึ้น และดึงดูดผู้ใช้ใหม่ ส่งผลให้ความต้องการใช้ SAND ในการทำธุรกรรมเพิ่มขึ้น ความร่วมมือกับ Casio สอดคล้องกับกลยุทธ์ของ The Sandbox ที่ต้องการดึงแบรนด์หลักเข้าสู่ระบบ เพิ่มมูลค่าระยะยาวของระบบนิเวศ
3. การหมุนเวียนตลาด Altcoin (ผลผสม)
ภาพรวม: ดัชนี Altcoin Season เพิ่มขึ้น 66.7% ใน 30 วัน แสดงถึงการไหลเข้าของเงินทุนไปยังโปรเจกต์อย่าง SAND อย่างไรก็ตาม สัดส่วนการครองตลาดของ Bitcoin ยังคงสูงที่ 57.6% จำกัดโอกาสการขึ้นของ altcoin
ความหมาย: แม้ SAND จะได้รับประโยชน์จากการหมุนเวียนของตลาด แต่ผลตอบแทนรายเดือนที่ 1.2% ยังต่ำกว่าโทเคนอื่นๆ เช่น MANA (+1.7%) แสดงว่าปัจจัยเฉพาะของโปรเจกต์มีบทบาทสำคัญ
สรุป
การปรับตัวขึ้นใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาเป็นผลจากทั้งแรงซื้อทางเทคนิคและความก้าวหน้าทางพื้นฐาน แม้ว่า SAND จะเพิ่มขึ้น 21.8% ในรอบปี แต่ยังตามหลังตลาดคริปโตที่เติบโต 40% สิ่งที่ควรจับตา: ปริมาณการซื้อขายจะสามารถรักษาระดับเหนือ $46 ล้าน (ปัจจุบัน $46.6 ล้าน) เพื่อยืนยันความเชื่อมั่นขาขึ้นได้หรือไม่?