สรุปย่อ
Velo (VELO) คือโครงการโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินบนบล็อกเชนที่มุ่งเน้นการทำให้การชำระเงินข้ามพรมแดนและการจัดการสภาพคล่องเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยเชื่อมโยงระหว่างการเงินแบบดั้งเดิม (TradFi) กับการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi)
- Federated Credit Network – ช่วยให้สามารถออกเครดิตดิจิทัลที่มีหลักประกัน เพื่อการโอนมูลค่าแบบไร้พรมแดนได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย
- Multi-Chain Ecosystem – รวมเครื่องมือต่าง ๆ เช่น ตลาดซื้อขายแบบไฮบริด (DEX), สเตเบิลคอยน์ และสะพานเชื่อมบล็อกเชน เพื่อให้สินทรัพย์ต่าง ๆ สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น
- Governance & Utility – โทเค็น VELO ใช้สำหรับการวางเดิมพัน (staking), การบริหารจัดการ และช่วยรักษาเสถียรภาพของสเตเบิลคอยน์ USDV
รายละเอียดเพิ่มเติม
1. วัตถุประสงค์และคุณค่า
Velo มีเป้าหมายแก้ไขปัญหาความล่าช้าและต้นทุนสูงในการชำระเงินข้ามพรมแดน รวมถึงการเข้าถึงสภาพคล่อง โดยเฉพาะในตลาดเงินโอนระหว่างประเทศในเอเชียที่มีมูลค่าถึง 396 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โปรโตคอลหลักของ Velo ช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สามารถออก เครดิตดิจิทัล (เช่น สเตเบิลคอยน์ USDV) ที่มีหลักประกัน เพื่อให้การชำระเงินเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีต้นทุนต่ำ ความร่วมมือกับ Visa, Paxos และ Lightnet มุ่งเน้นการนำไปใช้จริงในธุรกิจและแรงงานข้ามชาติ โดยตั้งเป้าจะรองรับเส้นทางแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่คึกคักที่สุดในเอเชียภายในปี 2026 (Velo Labs AMA)
2. เทคโนโลยีและสถาปัตยกรรม
Velo สร้างขึ้นบน Stellar Consensus Protocol ซึ่งช่วยให้ทำธุรกรรมได้รวดเร็ว ระบบนิเวศของ Velo ประกอบด้วย:
- Universe Hybrid DEX: ตลาดซื้อขายแบบไฮบริดที่รวมความเร็วของตลาดแบบรวมศูนย์กับความปลอดภัยของแบบกระจายศูนย์ รองรับการซื้อขายโทเค็นที่เกี่ยวข้องกับเงินตราต่างประเทศและสินค้าโภคภัณฑ์
- Warp Bridge: สะพานเชื่อมบล็อกเชนที่ช่วยให้โอนสินทรัพย์ข้ามเครือข่าย Stellar, BSC และ Ethereum ได้อย่างง่ายดาย
- Nova Chain: บล็อกเชนเฉพาะสำหรับการชำระค่าธรรมเนียม (จ่ายด้วยโทเค็น NOVA) และรองรับการชำระเงินระดับองค์กร
3. โทเคนและการบริหารจัดการ
- VELO: ใช้เป็นหลักประกันในการสร้าง USDV, ให้สิทธิประโยชน์ในระบบนิเวศ เช่น ส่วนลดค่าธรรมเนียม และใช้ในการบริหารจัดการผ่าน VeloDAO
- USDV: สเตเบิลคอยน์ที่สร้างผลตอบแทนและมีหลักประกันบางส่วนจาก Paxos’ USDL ใช้สำหรับการชำระเงินที่ถูกต้องตามกฎหมาย
- NOVA: โทเค็นสำหรับค่าธรรมเนียมที่ไม่สามารถซื้อขายได้ เพื่อป้องกันการเก็งกำไรและรักษาค่าธรรมเนียมให้คงที่ (Velo Townhall)
สรุป
Velo วางตัวเองเป็นสะพานเชื่อมระหว่างการเงินแบบดั้งเดิมกับโลก Web3 โดยใช้บล็อกเชนเพื่อทำให้การชำระเงินและสภาพคล่องข้ามพรมแดนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการเน้นตลาดเอเชียและความร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ ความสำเร็จของ Velo ขึ้นอยู่กับการขยายการใช้งาน USDV และ Nova Chain แล้วการผสานรวมระบบชำระเงินด้วย AI (PAYFAI) ของ Velo จะสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างไรต่อรูปแบบการโอนเงินแบบเดิม?