รายละเอียดเชิงลึก
1. การเปลี่ยนแปลงสู่ระบบโทเคนแบบลดจำนวน (ส่งผลบวก)
ภาพรวม:
WAX กำลังเปลี่ยนจากการให้รางวัลแบบเพิ่มจำนวนเหรียญ (inflationary staking rewards) มาเป็นระบบเผาเหรียญผ่าน PowerUp ที่ช่วยลดจำนวนเหรียญในระบบ โพสต์ในโซเชียล (WAX) ระบุว่าการสร้างเหรียญใหม่ลดลงและการเผาเหรียญเพิ่มขึ้นตามการใช้งานเครือข่าย โดยอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ประมาณ 3.9% ณ มิถุนายน 2025
หมายความว่าอย่างไร:
แรงขายจากรางวัล staking ลดลง และการเผาเหรียญที่เพิ่มขึ้น (หากมีการใช้งานมากขึ้น) อาจช่วยลดจำนวนเหรียญหมุนเวียน 4.45 พันล้านเหรียญของ WAXP ได้ ในอดีต กลไกการเผาเหรียญอย่างต่อเนื่อง เช่น Ethereum EIP-1559 ช่วยสนับสนุนราคาขึ้นเมื่อมีการใช้งานสูง
2. ภาวะซบเซาของเกม Web3 (ส่งผลลบ)
ภาพรวม:
ไตรมาส 2 ปี 2025 กิจกรรมเกมบล็อกเชนลดลง 17% เมื่อเทียบปีต่อปี และมีแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (dApps) ปิดตัวกว่า 300 ราย (DappRadar) แม้ WAX จะยังคงนำในจำนวนธุรกรรมที่ 6.3 ล้านรายการต่อวัน แต่เงินทุนในภาคเกมลดลงถึง 93% ทำให้โครงการใหม่ๆ มีความเสี่ยง
หมายความว่าอย่างไร:
การที่ WAX เน้นไปที่เกมทำให้ได้รับผลกระทบจากความสนใจของนักพัฒนาที่ลดลง อย่างไรก็ตาม การร่วมมือกับบริษัทเกมใหญ่เช่น Sega และ Ubisoft อาจช่วยลดผลกระทบจากโครงการเกมอิสระที่ล้มเหลวได้
3. ผลกระทบจากกฎหมาย GENIUS Act (ผลกระทบผสม)
ภาพรวม:
กฎหมาย GENIUS Act ที่บังคับใช้ในเดือนกรกฎาคม 2025 กำหนดกฎระเบียบสำหรับ stablecoin แต่ไม่ได้บังคับให้ใช้บล็อกเชนเสมอไป ผู้ร่วมก่อตั้ง WAX William Quigley ระบุว่ากฎหมายนี้อาจชะลอการนำโทเคนทางการเงินมาใช้ แต่ก็ช่วยให้สถาบันการเงินเข้าร่วมได้อย่างถูกกฎหมาย (สัมภาษณ์)
หมายความว่าอย่างไร:
การควบคุมที่เข้มงวดขึ้นอาจทำให้นักลงทุนเก็งกำไรลดลง แต่กฎระเบียบที่ชัดเจนอาจดึงดูดบริษัทใหญ่ที่สนใจ NFT และเกม ซึ่งเป็นกรณีการใช้งานหลักของ WAX
สรุป
การเปลี่ยนแปลงสู่ระบบลดจำนวนเหรียญของ WAXP ช่วยสร้างความมั่นคงในโครงสร้างราคา แต่ความเหนื่อยล้าของภาคเกมและความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบจำกัดโอกาสการเติบโต ควรจับตางาน NFTOPIA 5 Metaverse Convention ในเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นเวทีแสดงศักยภาพของ NFT บน WAX ว่าจะช่วยกระตุ้นความสนใจและการใช้งานได้มากน้อยแค่ไหน WAX จะสามารถรักษาความเร็วและประสิทธิภาพของธุรกรรมให้เหนือกว่าภาวะซบเซาของเกม Web3 ได้หรือไม่?