สรุปย่อ
การพัฒนา Worldcoin กำลังดำเนินไปตามเป้าหมายสำคัญดังนี้:
- เปิดตัวเครือข่ายหลัก World Chain (ไตรมาส 4 ปี 2025) – ขยายโครงสร้างพื้นฐานรองรับผู้ใช้มากกว่า 10 ล้านคน
- ขยายโครงการสนับสนุนชุมชน (ปี 2026) – ให้ทุนสนับสนุนโครงการนวัตกรรมในระบบนิเวศ
- ผสานรวม Reth Sequencer (ปี 2025–2026) – เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ World Chain สูงขึ้น 400 เท่า
รายละเอียดเชิงลึก
1. เปิดตัวเครือข่ายหลัก World Chain (ไตรมาส 4 ปี 2025)
ภาพรวม
World Chain เป็นเครือข่าย Ethereum ชั้นที่ 2 (L2) ที่สร้างขึ้นบน OP Stack ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวเครือข่ายหลักในช่วงปลายปี 2025 หลังจากผ่านช่วงทดสอบสำหรับนักพัฒนา โดยเน้นการทำธุรกรรมที่ให้ความสำคัญกับผู้ใช้จริง เช่น การลดค่าธรรมเนียมแก๊สสำหรับผู้ใช้ที่ผ่านการยืนยันตัวตน และจะย้ายผู้ใช้แอป World App กว่า 10 ล้านคนจาก OP Mainnet มายังเครือข่ายใหม่นี้ โดยมีเป้าหมายรองรับการทำธุรกรรมถึง 1,000 ล้านแก๊สต่อวินาที เพื่อแก้ไขปัญหาความแออัดของเครือข่ายในปัจจุบัน (Worldcoin Blog)
ความหมาย
เป็นสัญญาณบวกสำหรับการนำ WLD มาใช้จริง: การเปิดตัวเครือข่ายหลักจะช่วยเพิ่มกิจกรรมการทำธุรกรรมและการเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม มีความเสี่ยงจากความล่าช้าในการย้ายข้อมูลหรือปัญหาทางเทคนิคในช่วงขยายระบบ
2. ขยายโครงการสนับสนุนชุมชน (ปี 2026)
ภาพรวม
มูลนิธิ Worldcoin ได้มอบทุนรวม 800,000 WLD ให้กับ 28 โครงการในปี 2025 (Wave0) โดยเน้นไปที่การยืนยันตัวตน ฮาร์ดแวร์ และการบริหารจัดการ ในอนาคตจะมีการสนับสนุนโครงการที่เน้นแก้ปัญหาระดับรากหญ้า เช่น การทดลองระบบรายได้พื้นฐานอัตโนมัติด้วย AI และโปรโตคอลการรวมข้อมูลแบบ zk-proof (Worldcoin Blog)
ความหมาย
เป็นสัญญาณบวกสำหรับความหลากหลายของระบบนิเวศ: การให้ทุนช่วยกระตุ้นให้นักพัฒนาสร้างกรณีการใช้งานใหม่ ๆ เช่น การเลือกตั้งแบบกระจายศูนย์ แต่หากโครงการที่ได้รับทุนไม่สามารถสร้างผลลัพธ์ที่วัดได้ อาจส่งผลกระทบในทางลบหรือเป็นกลาง
3. ผสานรวม Reth Sequencer (ปี 2025–2026)
ภาพรวม
World Chain วางแผนที่จะเปลี่ยนจากการใช้ Geth มาเป็น Reth client ของ Paradigm เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลให้สูงขึ้นถึง 400 เท่า (1,000 ล้านแก๊สต่อวินาที เทียบกับ 2.5 ล้านแก๊สต่อวินาทีบน OP Mainnet) โดยขณะนี้ Reth อยู่ในช่วงทดสอบแบบเงียบ (Worldcoin Blog)
ความหมาย
เป็นสัญญาณบวกสำหรับการขยายตัวในระยะยาว: ประสิทธิภาพที่สูงขึ้นจะรองรับการใช้งานในวงกว้าง แต่ในระยะสั้นอาจมีความเสี่ยงจากความล่าช้าในการผสานรวมหรือการตรวจสอบความปลอดภัยที่พบช่องโหว่
สรุป
แผนพัฒนา Worldcoin มุ่งเน้นไปที่การขยายขีดความสามารถของเครือข่าย (World Chain) การเติบโตของระบบนิเวศ (โครงการสนับสนุน) และการอัปเกรดทางเทคนิค (Reth) ความสำเร็จขึ้นอยู่กับการดำเนินการย้ายข้อมูลและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ โดยเฉพาะในเรื่องการจัดการข้อมูลชีวมิติ โมเดลบล็อกเชนที่เน้นผู้ใช้จริงของ Worldcoin จะสามารถก้าวข้ามความกังวลด้านความเป็นส่วนตัวได้หรือไม่?