เจาะลึก
1. แรงหนุนจากการอัปเกรดเครือข่าย (ผลบวก)
ภาพรวม: ตลาดซื้อขายอย่าง ProBit Global ประกาศสนับสนุนการ hard fork และการอัปเกรดเครือข่ายของ Zilliqa ในวันที่ 24 กันยายน (ProBit) ซึ่งเป็นก้าวสำคัญสำหรับโครงสร้างพื้นฐาน Zilliqa 2.0 ที่พร้อมรองรับสถาบันการเงิน
ความหมาย: การอัปเกรดมักกระตุ้นการซื้อเก็งกำไร เนื่องจากช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เช่น ลดเวลาสร้างบล็อกเหลือ 1.5 วินาที จากเดิม 30 วินาที และรองรับ EVM (Ethereum Virtual Machine) การย้ายสัดส่วน 60% ของ ZIL ที่ถูก staking ไปยังระบบ PoS ใหม่ แสดงถึงความเชื่อมั่นของผู้ตรวจสอบเครือข่าย (validators) และช่วยลดสภาพคล่องในตลาดทันที
สิ่งที่ต้องติดตาม: การยืนยันความเสถียรของ mainnet หลังการอัปเกรด และอัตราการเข้าร่วมของ validators
2. สัญญาณทางเทคนิคที่เป็นบวก (ผลผสม)
ภาพรวม: ZIL สามารถกลับขึ้นเหนือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 7 วัน (SMA) ที่ $0.0105 และค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียล (EMA) ที่ $0.0107 ขณะที่ RSI อยู่ที่ 55 บ่งชี้แรงซื้อ-ขายสมดุล รูปแบบกราฟแบบ broadening wedge ที่พบในเดือนกรกฎาคมยังไม่เกิดสัญญาณชัดเจน แต่มีโอกาสฟื้นตัวหากปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น
ความหมาย: นักลงทุนระยะสั้นอาจมองว่าการทะลุผ่านค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เป็นสัญญาณบวก แต่ MACD histogram ที่ -0.00006 แสดงแรงซื้อยังไม่แข็งแกร่ง ข้อมูลย้อนหลังแสดงว่า ZIL มักปรับตัวขึ้น 100-300% หลังจากทดสอบแนวรับหลายปี แต่ปริมาณการซื้อขายปัจจุบันลดลง 23% เมื่อเทียบกับ 24 ชั่วโมงก่อนหน้า จึงยังขาดแรงหนุนที่ชัดเจน
ระดับสำคัญ: หากราคายืนเหนือ $0.0113 (SMA 30 วัน) ได้อย่างต่อเนื่อง อาจมีเป้าหมายถัดไปที่ $0.0124 (ระดับ Fibonacci 23.6%)
สรุป
การปรับตัวขึ้นของ ZIL สะท้อนความคาดหวังในเรื่องการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบ PoS และแรงขายที่ลดลงจากการ staking แต่สัญญาณทางเทคนิคยังไม่ชัดเจนว่าแรงซื้อจะต่อเนื่อง เหรียญยังมีราคาต่ำกว่าจุดสูงสุดในปี 2021 ถึง 80% แสดงถึงความเสี่ยงและโอกาสที่สูง
สิ่งที่ต้องจับตา: แนวโน้มปริมาณการซื้อขายในช่วงเวลาทำการของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในวันที่ 3 ตุลาคม หากปริมาณซื้อขายทะลุ $20 ล้านต่อวัน อาจเป็นการยืนยันสัญญาณทางเทคนิคที่เป็นบวกได้