เจาะลึก
1. วัตถุประสงค์และเทคโนโลยีหลัก
ZKsync ใช้เทคนิค ZK-rollups ซึ่งเป็นวิธีการเข้ารหัสที่รวบรวมธุรกรรมจำนวนมากนอกเครือข่ายหลัก (off-chain) แล้วส่งหลักฐานความถูกต้องมายัง Ethereum วิธีนี้ช่วยลดความแออัดและค่าธรรมเนียมในเครือข่ายหลัก ในขณะที่ยังคงความปลอดภัยของ Ethereum ไว้ได้ ตัวสร้างหลักฐานที่ชื่อว่า Airbender สามารถสร้างหลักฐานบล็อกของ Ethereum ได้ภายในเวลาประมาณ 35 วินาที โดยใช้การ์ดจอเพียงใบเดียว (ZKsync) ซึ่งช่วยให้ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมต่ำกว่าหนึ่งเซ็นต์
นวัตกรรมสำคัญ:
- Elastic Network: กรอบการทำงานแบบโมดูลาร์ที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างเชนที่กำหนดเองได้ (เช่น rollups หรือ validiums) โดยมีสภาพคล่องและการเชื่อมต่อร่วมกัน
- Native Interoperability: เชนต่าง ๆ สามารถสื่อสารกันผ่าน ZKsync Gateway ทำให้สามารถแลกเปลี่ยนแบบ atomic swaps และส่งข้อความข้ามเชนได้
2. ระบบนิเวศและกรณีการใช้งาน
ระบบนิเวศของ ZKsync มุ่งเน้นที่ การนำไปใช้ในองค์กรขนาดใหญ่ และ ความยืดหยุ่นสำหรับนักพัฒนา:
- สินทรัพย์ในโลกจริง (RWAs): มีพันธมิตรอย่าง ADI Chain (สเตเบิลคอยน์ที่ผูกกับเงินสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) และ Deutsche Bank ใช้ ZKsync เพื่อสร้างโซลูชันทางการเงินที่ปลอดภัยและขยายได้ (The Defiant)
- เกมและเมตาเวิร์ส: The Sandbox สร้างเชน L2 ของตัวเองชื่อ SANDChain โดยใช้ ZKsync’s ZK Stack เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจของผู้สร้างเนื้อหา (Decrypt)
- DeFi: ตลาดแลกเปลี่ยนแบบไฮบริด GRVT (สร้างบน ZKsync) มีปริมาณการซื้อขายต่อเนื่องรายวันสูงถึง 922 ล้านดอลลาร์ (Cointelegraph)
3. การบริหารจัดการและโทเคน
โทเคน ZK ใช้สำหรับการบริหารและค่าธรรมเนียมในเครือข่าย:
- การใช้งาน: ใช้จ่ายค่าธรรมเนียมบน ZKsync Gateway และสนับสนุนโครงการชุมชน
- การบริหารจัดการ: การตัดสินใจของชุมชนผ่านกลุ่ม ZK Success ซึ่งเป็นกลุ่มกระจายอำนาจที่ดูแลการรับสมาชิกใหม่ การให้ความรู้ และการอัปเกรดโปรโตคอล (GitHub)
- การจัดสรร: มีโครงการนำร่องที่อนุมัติการจัดสรรโทเคน ZK จำนวน 20 ล้านโทเคน เพื่อสนับสนุนโครงการในระบบนิเวศ โดยใช้โทเคนที่ได้จากการกู้คืนหลังเหตุการณ์รั่วไหลของกุญแจผู้ดูแลในปี 2025 (Binance)
สรุป
ZKsync ผสานเทคโนโลยี ZK-proof ที่ทันสมัยเข้ากับเครือข่ายแบบโมดูลาร์ที่เชื่อมต่อกันได้ เพื่อขยายขีดความสามารถของ Ethereum สำหรับองค์กรและนักพัฒนา ด้วยการเน้นที่การสร้างเชนที่ปรับแต่งได้และการบริหารจัดการโดยชุมชน ทำให้ ZKsync เป็นผู้เล่นสำคัญในวิวัฒนาการครั้งต่อไปของบล็อกเชน
ก้าวต่อไป? ZKsync จะสามารถรักษาสมดุลระหว่างการขยายตัวและการกระจายอำนาจผ่าน Elastic Network ได้หรือไม่ เมื่อมีการนำไปใช้มากขึ้น?