eCash price

XEC

#119

ECash (XEC) ก่อตั้งโดย Amaury Sechet ซึ่งเป็นผู้พัฒนาหลักของ Bitcoin Cash (BCH) และ fork บล็อคเชน นั้นเพื่อสร้าง eCash รุ่นก่อน Bitcoin Cash ABC (BCHA) การ fork นั้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2020 จากนั้น Sechet ตัดสินใจรีแบรนด์ Bitcoin Cash ABC เพื่อสร้างเอกลักษณ์ใหม่ของแบรนด์สำหรับ eCash โดยอธิบายว่าการลดตำแหน่งทศนิยมจะช่วยให้มีการนำเหรียญไปใช้มากขี้น:

"ไม่มีเงินสกุลอื่นที่มีทศนิยมแปดตำแหน่ง ทำไมต้องเข้าใช้คริปโต คริปโตเคอร์เรนซีที่มีราคาต่อหน่วยที่ต่ำกว่ายังมีการแข็งค่าที่สูงขึ้นใน bull market เนื่องจากทีม eCash ได้รับแรงจูงใจจากทั้งเทคโนโลยีและการปรับปรุงราคา การปรับปรุงนี้จึงไม่ใช่เรื่องง่าย"

Sechet มีบทบาทอย่างมากในการพัฒนา Bitcoin Cash ซึ่งนำไปสู่การ fork ครั้งแรกออกจากบิทคอยน์ในเดือนสิงหาคม 2017 ความต่อเนื่องหลังจากที่ Bitcoin SV (BSV) ถูก fork ในเดือนพฤศจิกายน 2018 และการ fork ล่าสุดจาก Bitcoin Cash ในเดือนพฤศจิกายน 2020 ก่อนที่เขาจะเข้ามาในโลกของคริปโตเคอร์เรนซี เขาเป็นวิศวกรซอฟต์แวร์ที่ Facebook และเป็นผู้นำนักพัฒนาที่ Stupid D Compiler

นักพัฒนา eCash (XEC) ตั้งใจให้เหรียญสามารสนับสนุนความเข้ากันได้ของ Ethereum Virtual Machine (EVM) และเพื่อให้สามารถทำงานร่วมกับภาค decentralized finance (DeFi)บน Ethereum (ETH) เพื่อให้เหรียญประสบความสำเร็จ นักพัฒนาของ eCash จึงตั้งใจที่จะบรรลุภารกิจหลักห้าประการ:

• การทำธุรกรรมที่ไม่ต้องเปิดเผยตัวตน
• สร้างความมั่นใจใน immutability ของธุรกรรม
• การรับประกันว่าการทำธุรกรรมนั้นเกือบจะทำได้ฟรี
• บังคับใช้ธุรกรรมที่ปลอดภัยทั่วโลก โดยใช้เวลาไม่ถึงสามวินาที
• การออกแบบโครงสร้างพื้นฐานของเหรียญให้เป็นสินค้าสาธารณะ สามารถลงทุนผ่านสัญญาทางสังคม

เพื่อให้บรรลุสิ่งนี้ ผู้พัฒนา eCash ได้วางแผนงานที่มีเป้าหมายที่สูง โดยมีแผนที่จะ:

• การสั่งซื้อธุรกรรมตามรูปแบบบัญญัติเพื่อเปิดใช้งานการประมวลผลบล็อกที่ปรับขนาดได้
• Schnorr Signatures เพื่อเปิดใช้งานการตรวจสอบลายเซ็นแบบแบตช์
• การขยายบล็อกที่เร็วขึ้นผ่านกราฟีนหรืออื่น ๆ
• ความมุ่งมั่นของ UTXO คือการปรับแต่งบล็อคเชนและการซิงค์เริ่มต้นที่เร็วขึ้น
• Merklix-Meta Tree เพื่อเปิดใช้งานการประมวลผลบล็อกที่ปรับขนาดได้
• ขนาดบล็อกที่ปรับเปลี่ยนได้เพื่อรองรับการเติบโตที่ขับเคลื่อนด้วยตลาด ไปสู่บล็อกขนาด 1TB

โซลูชันที่มีความสามารถสูงเหล่านี้จะขับเคลื่อน eCash ให้สามารถทำธุรกรรมได้ถึง 50 ธุรกรรมต่อผู้ใช้ต่อวันสำหรับผู้ใช้มากถึง 10 พันล้านคน

ลองใช้ Ripple (XRP) — คริปโตเคอร์เรนซีที่เน้นการชำระเงิน

ลองใช้ Stellar (XLM) — อีกคริปโตเคอร์เรนซีที่เน้นในด้านการชำระเงิน

อ่านข้อมูล เจาะลึกของเราในเครือข่าย OMG

รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับคริปโตและข้อมูลเชิงลึกด้านการซื้อขายล่าสุดด้วย CoinMarketCap blog

ตรงกันข้ามกับเครือข่าย Bitcoin Cash ABC (BCHA) ซึ่งได้รับการรักษาความปลอดภัยโดยใช้ กลไกฉันทามติแบบ proof-of-work (PoW) โดยผู้พัฒนา eCash วางแผนที่จะเพิ่ม proof-of-stake (PoS) เพื่อเพิ่มความเร็วในการทำธุรกรรม สิ่งที่พวกเขาเรียกว่า "Avalanche post-consensus" จะแสดงถึงการรักษาความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นและการอัปเกรดที่ไม่ต้องใช้ fork และอนุญาตให้ใช้ opcodes ขั้นสูงด้วยความสามารถของสคริปต์ที่ได้รับการปรับปรุงแล้ว เลเยอร์ Avalanche จะถูกเพิ่มทับลงบน PoW ที่มีอยู่เพื่อให้ใช้ประโยชน์จากทั้งสองอย่างได้

XEC ไม่ใช่โทเค็น ERC-20 แต่เป็นบล็อคเชนของตัวเองที่คล้ายกับบิทคอยน์ (BTC)

ECash (XEC) สามารถซื้อผ่าน Binance, Huobi Global, OKEx, Mandala Exchange และ Upbit

นี่คือบทความอื่น ๆ ที่คุณอาจสนใจ:

• คริปโตฟอเซ็ต (Crypto Faucet) คืออะไร?
• บัตรเดบิตคริปโตคืออะไร?
• Web 3.0 คืออะไร?
• การฟาร์มผลตอบแทนคืออะไร?
• การให้ยืมคริปโต (Crypto Lending) คืออะไร?