Stellar price

XLM

#16

Jed McCaleb กับทนายความ Joyce Kim ได้ร่วมกันก่อตั้ง Stellar หลังจากออกจาก Ripple ในปี 2013 เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับทิศทางในอนาคตของบริษัท

ในการอธิบายเกี่ยวกับเหตุผลเบื้องหลังของ Stellar ในเดือนกันยายน 2020 McCaleb บอกกับ CoinMarketCap ว่า “การออกแบบดั้งเดิมของ Stellar ทั้งหมดคือการที่คุณสามารถมีสกุลเงิน fiat และมูลค่าในรูปแบบอื่น ๆ ควบคู่กันไปกับสินทรัพย์ประเภทคริปโตได้ นี่เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนให้ธุรกิจกลายเป็นกระแสหลัก”

เป้าหมายของ McCaleb คือการทำให้แน่ใจว่า Stellar สามารถทำให้ผู้คนมีวิธีการในการเคลื่อนย้าย fiat ของพวกเขาไปสู่คริปโต และขจัดปัญหาที่ผู้คนมักประสบเมื่อพวกเขาทำการส่งเงินไปทั่วโลก

ปัจจุบันเขาดำรงตำแหน่ง CTO ของ Stellar รวมถึงเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Stellar Development Foundation องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ "ปลดล็อกศักยภาพทางเศรษฐกิจของโลกด้วยการทำให้เงินมีความคล่องตัวมากขึ้น, เปิดตลาดได้มากขึ้น และผู้คนได้รับอำนาจในการใช่งานมากขึ้น"

ค่าธรรมเนียมเป็นจุดนี่ดึงดูดสำหรับหลาย ๆ คน อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายที่สูงในการชำระเงินข้ามพรมแดนไม่ได้เป็นเพียงโซลูชันของการชำระเงินแบบ fiat เท่านั้น ที่ PayPal — ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมยังเป็นที่รู้กันดีว่าต้องผ่าน Bitcoin และ Ethereum blockchains เนื่องจากความแออัดที่มี

Stellar มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเพราะทุกธุรกรรมมีราคาเพียง 0.00001 XLM เมื่อพิจารณาว่าสกุลเงินดิจิทัลหนึ่งหน่วยมีค่าใช้จ่ายเพียงไม่กี่เซ็นต์ในขณะที่เขียน สิ่งนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าผู้ใช้จะเก็บเงินได้มากขึ้น

มีโครงการบล็อคเชนเพียงไม่กี่โครงการที่สามารถรักษาความเป็นหุ้นส่วนกับบริษัทเทคโนโลยีแบรนด์ใหญ่และบริษัทฟินเทคได้ เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา Stellar และ IBM ได้ร่วมมือกันเพื่อเปิดตัว World Wire ซึ่งเป็นโครงการที่อนุญาตให้สถาบันการเงินขนาดใหญ่ส่งธุรกรรมไปยังเครือข่าย Stellar และทำธุรกรรมโดยใช้สินทรัพย์บริดจ์ เช่น Stablecoins ได้

แม้ว่าบล็อคเชนอื่น ๆ จะมีกองทุนชุมชน ซึ่งหมายความว่าสามารถมอบทุนให้กับโครงการที่ช่วยส่งเสริมระบบนิเวศต่อไปได้ แต่ Stellar ยังอนุญาตให้ผู้ใช้สามารถโหวตว่าควรให้การสนับสนุนการลงทุนใด

เมื่อเครือข่าย Stellar เปิดตัวในปี 2015 ได้มีการออก XLM มาทั้งหมด 100 พันล้าน — แต่สิ่งต่าง ๆ ได้เปลี่ยนไปหลังจากวางจำหน่าย ปัจจุบันอุปทานทั้งหมดของ XLM อยู่ที่ 50 พันล้าน และอุปทานหมุนเวียนอยู่ที่ 20.7 พันล้าน

ในปี 2019 มูลนิธิ Stellar Development Foundation ได้ประกาศว่ากำลังจะมีการ burn อุปทานของคริปโตเคอร์เรนซีมากกว่าครึ่งหนึ่ง ซึ่งหมายความว่าขณะนี้ควบคุม XLM อยู่ 30 พันล้าน ในขณะที่บางส่วนของเงินทุนนี้ได้รับการจัดสรรสำหรับการทำการตลาดและช่วยในการพัฒนาขององค์กร และประมาณหนึ่งในสามถูกเก็บไว้สำหรับการลงทุนในกิจการบล็อกเชนอื่น ๆ

ในการอธิบายว่าเหตุใดจึงต้องใช้การเคลื่อนไหวที่รุนแรงนี้ — และสัญญาว่าจะไม่ทำการ burn XLM อีกในอนาคต — มูลนิธิอธิบายว่า: "SDF สามารถมีขนาดเล็กลงและมีการทำงานที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ลูเมนที่น้อยลง ... ซึ่ง 55.5 พันล้านลูเมนไม่ได้ทำงานเพื่อเพิ่มการยอมรับของ Stellar”

เครือข่ายนี้ปลอดภัยเนื่องจากใช้ Stellar Consensus Protocol ซึ่งมีคุณสมบัติหลักสี่ประการ: “การควบคุมแบบกระจายศูนย์, เวลาแฝงต่ำ, ความไว้วางใจที่ยืดหยุ่น และการรักษาความปลอดภัยแบบไม่มีซีมโทติก”

ด้วย SCP ทุกคนสามารถเข้าร่วมกระบวนการฉันทามติได้ และไม่มีหน่วยงานใดสามารถมีอำนาจในการตัดสินใจหลัก ๆ ด้ การทำธุรกรรมได้รับการยืนยันว่ามีราคาถูกและทำได้ภายในไม่กี่วินาที — และมีการป้องกันหากมีผู้ไม่หวังดีพยายามเข้าร่วมเครือข่าย

ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ XRP ซึ่งเป็นคริปโตเคอร์เรนซีที่ forked จาก XLM

อ่านบทสัมภาษณ์ของ Crypto Titans กับ Jed McCaleb แห่ง Stellar

CMC Alexandria: แหล่งข้อมูลการศึกษาที่ดีที่สุดสำหรับคริปโต

บทสัมภาษณ์อีกมากมายใน CoinMarketCap Blog