CoinMarketCap Academy ได้ทำการพิจารณาบทบาทของผู้ร่วมลงทุนและกองทุนร่วมในคริปโตและ VC ชั้นนำบางส่วนในเกม
นายธนาคารเพื่อการลงทุนและผู้ร่วมลงทุนมองว่าคริปโตจะเป็นทองตัวต่อไป
ในปีที่แล้ว ผู้ร่วมทุนหรือ VCs ทุ่มเงินให้กับการลงทุนในคริปโตและบล็อคเชนมากกว่าในปีก่อนหน้าทั้งหมดรวมกัน มีการลงทุนทั้งสิ้น 33 พันล้านดอลลาร์ในสตาร์ทอัพคริปโตและบล็อคเชน (crypto) ตาม รายงานของ Galaxy Digital มูลค่าการลงทุน 9 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2021 สูงกว่าการลงทุนของ VC ทั้งปีในปี 2023
แม้ว่าไม่ใช่ทุกคนที่เห็นด้วยว่า VCs เป็นสิ่งที่ดี แต่พวกเขาพร้อมที่จะอยู่ต่อไป บทความนี้จะอธิบายบทบาทของผู้ร่วมทุนในเศรษฐกิจของคริปโตในปัจจุบัน และวิธีที่พวกเขาจะมีบทบาทมากขึ้นในการกำหนดวิสัยทัศน์ของคริปโตในปีต่อ ๆ ไป
Join us in showcasing the cryptocurrency revolution, one newsletter at a time. Subscribe now to get daily news and market updates right to your inbox, along with our millions of other subscribers (that’s right, millions love us!) — what are you waiting for?
การเติบโตแบบทวีคูณของการร่วมลงทุน
ในปี 2021 เราได้เห็นการรวมตัวกันของกลุ่มการลงทุนร่วมทุนในคริปโต ข้อมูลจาก Galaxy Digital แสดงให้เห็นว่า VCs ลงทุน $33 พันล้านดอลลาร์ ในบริษัทคริปโตและบล็อคเชนในปี 2021 ซึ่งคิดเป็นประมาณ 5% ของเงินทั้งหมดที่พวกเขาลงทุนเมื่อปีที่แล้ว
นั่นคือการที่เงินที่พวกเขาลงทุน เพิ่มขึ้นเกือบพันเปอร์เซ็นต์ ในปี 2020
แม้ว่าแนวโน้มขาลงจะปกคลุมตลาดคริปโตในช่วงต้นปี 2022 แต่การลงทุนของ VCs ก็ไม่ได้ชะลอตัวลงซะทีเดียว จากข้อมูลของ Galaxy Digital การร่วมลงทุนมีมูลค่าสูงถึง 10 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 1 ปี 2022 ซึ่งเป็นไตรมาสที่สูงที่สุด สิ่งนี้แตกต่างอย่างมากจากตลาดแบร์ในครั้งก่อนในปี 2018 ซึ่งสตาร์ทอัพคริปโตจำนวนมาก พยายามดิ้นรน เพื่อระดมทุนและอยู่เหนือตลาด
เมื่อคริปโตบุกเข้าสู่กระแสหลักอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจเสริมและธุรกิจสนับสนุนทุกประเภทจึงเริ่มต้นขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่ต้องการการลงทุนและคำแนะนำจากผู้ที่เข้าใจทั้งคริปโตและธุรกิจ
นี่คือที่มาของ VCs
บทบาทของผู้ร่วมทุน
ผู้ร่วมทุนหรือ VCs มองหาสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพในการเติบโต และจัดหาเงินทุนและคำแนะนำเพื่อแลกกับการถือหุ้นในบริษัท กองทุน VC มักจะสร้างโดยกลุ่มนักลงทุนที่ค้นหาโอกาสการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงและให้ผลตอบแทนสูง
อย่างไรก็ตาม บริษัทขนาดใหญ่บางแห่งมีกลุ่มธุรกิจเฉพาะที่จัดการโดยผู้เชี่ยวชาญภายในองค์กร ซึ่งเรียกว่าการเงินร่วมทุนขององค์กร ในโลกธุรกิจ นี่คือตัวอย่างบริษัทร่วมทุน Intel Intel Capital, หน่วยเงินร่วมลงทุน ของ Facebook, Google Ventures ของ Alphabet และ Salesforce Ventures โดยส่วนใหญ่แล้ว ทีมงานด้านการเงินของกิจการร่วมค้าจะดำเนินการในลักษณะเดียวกับ VCs ยกเว้นผลกำไรจะถูกเอาไปโดยบริษัทและไม่ใช่นักลงทุนรายย่อย
VCs มักจะลงทุนในอุตสาหกรรมที่พวกเขาคุ้นเคย เนื่องจากความรู้ ประสบการณ์ และเครือข่ายมืออาชีพช่วยให้พวกเขาแนะนำและสนับสนุนทีมที่พวกเขาทำงานด้วยได้ พวกเขามักจะกำหนดเป้าหมายไปยังบริษัทที่มีทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์ ตลาดเป้าหมายขนาดใหญ่ และผลิตภัณฑ์ในอุดมคติคือผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมือนใครและไม่เคยมีมาก่อน
เมื่อทีมนักลงทุนร่วมลงทุนในบริษัท พวกเขาทำงานร่วมกับทีมงานภายในในด้านต่างๆ เช่น การจัดการธุรกิจ การตลาด และการประชาสัมพันธ์เพื่อให้แน่ใจว่าบริษัทจะเติบโตได้ พวกเขายังให้การเข้าถึงเครือข่ายมืออาชีพ ซึ่งช่วยให้บริษัทเติบโต ขยายสู่ตลาดใหม่ และสร้างตัวตนในอุตสาหกรรมของตน
ในภาคธุรกิจแบบดั้งเดิม VCs มักจะไม่ให้ทุนแก่สตาร์ทอัพที่เริ่มจากแค่ขั้นไอเดียเท่านั้น พวกเขามักจะให้เงินแก่บริษัทที่มีผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปและต้องการขยายธุรกิจ อย่างไรก็ตาม สตาร์ทอัพคริปโตไม่ได้ระดมทุนในลักษณะที่ธุรกิจอื่นทำ ดังนั้น VCs จึงต้องปรับกลยุทธ์การลงทุนของพวกเขา
มาดูกันว่าการเป็นนักลงทุนร่วมลงทุนคริปโตนั้นทำงานอย่างไร
Venture Capital ในคริปโต
ตั้งแต่ปี 2013 สตาร์ทอัพจากภาคส่วนคริปโตส่วนใหญ่ระดมทุนเริ่มต้นผ่านการขายโทเค็น ในกระบวนการที่เรียกว่า initial coin offering หรือ ICO เหรียญและแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบันได้ระดมทุนเริ่มต้นโดยใช้ ICO รวมถึง Ethereum
ICO เหมาะอย่างยิ่ง ที่จะได้รับเงินทุนจากนักลงทุนรายย่อย เนื่องจากไม่มีกฎระเบียบและไม่มีอุปสรรคในการเข้าใช้งาน พวกเขายังช่วยให้สตาร์ทอัพสามารถระดมทุนได้โดยไม่ต้องก่อหนี้ใดๆ และไม่ให้หุ้นในบริษัทเสียไป
อย่างที่คุณสามารถจินตนาการได้ VCs ก็ใช้ประโยชน์จาก ICO เช่นกัน เนื่องจากพวกเขาสามารถซื้อบริษัทสตาร์ทอัพคริปโตใหม่ได้ก่อนกำหนด แต่ไม่มีการให้ความช่วยเหลือด้านการตลาดหรือเครือข่ายแต่อย่างใด นอกจากนี้ VCs ยังสามารถถอนโทเค็นได้เร็วกว่าที่พวกเขาขายหุ้นทุนได้ แม้ว่าปกติแล้วจะมีการบังคับใช้ ระยะเวลาในการได้รับสิทธิ์ ในการขายโทเค็นครั้งแรกก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ในช่วงปีที่ผ่านมา VCs ได้ลงทุนเงินของพวกเขามากขึ้น ก่อนที่ โทเค็นจะเผยแพร่สู่สาธารณะผ่าน ICO ทำให้พวกเขาสามารถซื้อโทเค็นได้ถูกกว่าผู้ค้าปลีก อาจมีคนโต้แย้งว่าสิ่งนี้ทำให้ VCs สามารถ "โยนทิ้ง" โทเค็นให้กับนักลงทุนรายย่อย ซึ่งบางครั้งเรียกว่า "plebs" ได้ โปรดทราบว่าไม่ใช่ทุกคนที่เห็นด้วยว่าการร่วมทุนที่เพิ่มขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้เป็นผลดีต่อคริปโต
นอกจากเงินแล้ว สตาร์ทอัพจะได้อะไรจาก VCs?
นอกเหนือจากการระดมทุนเพื่อทำให้โครงการของพวกเขาเริ่มต้นขึ้นได้ ผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพยังได้รับประโยชน์จากการเข้าถึงเครือข่ายบริษัทและผู้ก่อตั้งที่กว้างขวางของ VCs ตลอดจนคำแนะนำเกี่ยวกับการควบคุมกฎระเบียบ การตลาด การประชาสัมพันธ์ และอื่นๆ อีกด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น การได้รับเงินทุนจาก VC ที่มีชื่อเสียงเป็นรูปแบบหนึ่งของการสร้างแบรนด์ — ช่วยให้สตาร์ทอัพมีความชอบธรรม ซึ่งมักจะช่วยรับประกันความสนใจและการลงทุนที่มากขึ้นจากนักลงทุนรายย่อยในระยะต่อไป ไม่น่าแปลกใจเลยที่รายชื่อนักลงทุนของสตาร์ทอัพจะปรากฏอย่างเด่นชัดบนหน้าแลนด์ดิ้ง เพจ
เพื่อแลกกับการระดมทุนและคำแนะนำ VCs มักจะได้รับหุ้นทุนในบริษัท หรือเปอร์เซ็นต์ของโทเค็นก่อนที่จะขายต่อสาธารณะ หากการเริ่มต้นประสบความสำเร็จ VC จะถอนโทเค็นออกหรือขายหุ้นเพื่อผลกำไรต่อไป
บริษัท VC ชั้นนำ
ต่อไปนี้คือรายชื่อบริษัทร่วมลงทุนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดเจ็ดแห่งในวงการคริปโต
DCG – Digital Currency Group
Digital Currency Group หรือ DCG ก่อตั้งขึ้นในปี 2015 โดยมหาเศรษฐี Barry Silbert ซึ่งเป็นหนึ่งในนักลงทุนบิทคอยน์รายแรกสุด
ภารกิจของกลุ่มคือการเร่งการพัฒนาบริษัทบิทคอยน์และบล็อคเชนโดยการลงทุนและแนะนำบริษัทฟินเทครุ่นใหม่ โดยเฉพาะบริษัทที่ดำเนินการสร้างสินทรัพย์ดิจิทัลใหม่
จนถึงปัจจุบัน กลุ่มได้ลงทุนในบริษัทคริปโตและบล็อคเชนมากกว่า 200 แห่ง รวมถึง BitPay, Chainalysis, Circle, Coinbase, Lightning Network, Ripple และ ZCash
แต่ DCG อาจเป็นที่รู้จักดีที่สุดสำหรับบริษัทในเครือ: Grayscale Investments ซึ่งจัดการเกี่ยวกับ Bitcoin Investment Trust และเป็นผู้จัดการสินทรัพย์ดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก และ CoinDesk หนึ่งในเว็บไซต์สื่อข่าวคริปโตชั้นนำ
3AC – Three Arrows Capital
ที่มา: cryptotimes.io
Three Arrows Capital เป็นกองทุนเพื่อการลงทุนที่เน้นในด้านคริปโต ก่อตั้งขึ้นในปี 2012 โดย Su Zhu (ภาพด้านบน) และ Kyle Davies และพวกเขาเคยประจำอยู่ที่สิงคโปร์ แต่ตอนนี้ย้ายไปดูไบ
บริษัทตั้งเป้าที่จะให้ “ผลตอบแทนที่ปรับความเสี่ยงได้ดีกว่า” แก่นักลงทุน และได้สะสมพอร์ตการลงทุนคริปโตแบบผสมได้ในจำนวนมหาศาลในช่วงสิบปีที่ผ่านมา
ผลงานของกองทุนประกอบด้วยโครงการ DeFi หลายโครงการ รวมถึง AAVE, Trader Joe และ KeeperDAO ตลอดจนเกมบล็อคเชนและแพลตฟอร์ม NFT เช่น Axie Infinity และ Crypto Raiders
Three Arrows ซื้อและถือคริปโตเคอร์เรนซีและโทเค็นที่แตกต่างจากบริษัทการลงทุนอื่นๆ ส่วนใหญ่ ซึ่งรวมถึง Bitcoin, Kusama และ Solana และในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว มีรายงานว่าบริษัทซื้อ ETH มูลค่า 400 ล้านดอลลาร์
เมื่อเร็ว ๆ นี้ Three Arrows ได้ เข้าร่วมในการระดมทุนไปถึงเก้าสิบสองล้านดอลลาร์สำหรับโปรโตคอล Mina ซึ่งปัจจุบันมีสถิติการเป็นบล็อคเชนที่เบาที่สุดในโลกที่มีขนาดเพียง 22KB
A16z – Andreessen Horowitz
ที่มา: a16zcrypto.com
Andreessen Horowitz หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ a16z น่าจะเป็นกองทุน VC ที่รู้จักกันดีที่สุดในโลกของคริปโตในปัจจุบัน บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 2012 โดย Marc Andreessen และ Ben Horowitz และปัจจุบันตั้งอยู่ในเมืองซิลิคอนแวลลีย์ รัฐแคลิฟอร์เนีย
A16z เสนอการจัดหาเงินทุนให้กับ "ผู้ประกอบการที่มีความกล้าหาญที่จะสร้างอนาคตผ่านเทคโนโลยี" ในทุกขั้นตอนของวงจรการระดมทุน ตั้งแต่รอบ Seed ไปจนถึง Series C
บริษัทมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารเกือบ 3 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งแบ่งออกเป็นกองทุนต่าง ๆ รวมถึงกองทุนคริปโตโดยเฉพาะที่เรียกว่า a16z crypto
โครงการคริปโต a16z มีมูลค่ามากกว่า 3 พันล้านดอลลาร์ภายใต้การบริหารในปัจจุบัน และทีมงานของบริษัทประกอบด้วยที่ปรึกษาที่เชี่ยวชาญด้านคริปโตเคอร์เรนซี นักการตลาด นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ และนักลงทุน ซึ่งทุกคนจะแนะนำบริษัทด้านคริปโตที่ a16z ลงทุนด้วย
จนถึงปัจจุบัน a16z ได้ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่แพลตฟอร์มคริปโตที่มีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จหลายร้อยแห่ง รวมถึง OpenSea, ตลาด NFT, Dapper Labs ผู้ผลิต CryptoKitties และ Axie Infinity เกมบนบล็อคเชนที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม
พอร์ตโฟลิโอการลงทุนด้านคริปโตยังมีใน Compound, Near Protocol, Uniswap, Maker และ Celo เป็นต้น
Coinbase Ventures
ที่มา: blog.coinbase.com
Coinbase ตัวกลางการแลกเปลี่ยนคริปโตที่ได้รับความนิยมและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีกลุ่มทุนของตัวเองที่เรียกว่า Coinbase Ventures จากการวิจัยของ CB Insights พบว่า Coinbase Ventures เป็นนักลงทุนบล็อคเชนอันดับต้น ๆ ในปี 2021
กองทุนเริ่มต้นในเดือนมีนาคม 2018 และจัดหาเงินทุนให้กับบริษัทในระยะเริ่มต้นที่มีแนวโน้มว่าจะขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไปในทางที่ดีขึ้น มันแตกต่างจากกองทุนอื่นๆ ที่เราเคยพูดถึงมาจนถึงตอนนี้ ไม่มีขนาดกองทุนคงที่และไม่มีพนักงานประจำ จากคำกล่าวของ Emilie Choi ซีโอโอของ Coinbase
ในการให้สัมภาษณ์กับ Forbes เขาได้อธิบายว่าแทนที่จะทุ่มเทเงินทุนเพื่อการลงทุนล่วงหน้า Coinbase ใช้เงินจากงบดุลเพื่อซื้อหุ้นทุนในการเริ่มต้น และพวกเขาต้องการเข้าร่วมรอบการระดมทุนที่นำโดยบริษัท VC อื่นๆ
จากข้อมูลของ Crunchbase พบว่า Coinbase Ventures ได้ทำการลงทุนไปแล้ว 240 ครั้ง และเพิ่งได้เข้าร่วมใน รอบการระดมทุน Series A สำหรับแพลตฟอร์มการขุด NFT ที่เรียกว่า Mintbase
พอร์ตการลงทุนในปัจจุบันของกองทุนประกอบด้วยเงินเดิมพันใน BlockFi, บริการให้ยืมเงินคริปโตและวอลเลท, Audius, แพลตฟอร์มเพลงแบบกระจายอำนาจ และ Dapper Labs บริษัทที่อยู่เบื้องหลัง CryptoKitties และ NBA Top Shot NFT
Alameda Research
ที่มา: www.alameda-research.com
Alameda Research เป็นกองทุนไพรเวทอิควิตี้ในฮ่องกงซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปลายปี 2017 โดย Sam Bankman-Fried หรือที่รู้จักในชื่อ SBF คุณอาจเคยได้ยินเกี่ยวกับ SBF แล้ว — เขาเป็นผู้ก่อตั้งและ CEO ของ FTX ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่ให้บริการแลกเปลี่ยนอนุพันธ์คริปโตชั้นนำ
วันนี้ Alameda จัดการสินทรัพย์ดิจิทัลกว่าพันล้านดอลลาร์ รวมถึง Bitcoin, Ethereum, BNB, Solana, Uniswap และเหรียญและโทเค็นอื่น ๆ อีกกว่าสามสิบรายการ
การลงทุนล่าสุด ได้แก่ การระดมทุนสำหรับ ConsenSys ซึ่งพัฒนาวอลเลทอย่าง MetaMask และ Near Protocol ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการพัฒนา DApp
แต่บางทีการลงทุนที่ประสบความสำเร็จที่สุดของ Alameda อาจเป็นการเดิมพันครั้งใหญ่สำหรับ Solana ใน เดือนมิถุนายน 2021 ก่อนที่โทเค็นของมันจะพุ่งขึ้นจากต่ำกว่า 30 ดอลลาร์เป็นมากกว่าสองร้อยห้าสิบดอลลาร์
Binance Labs
ที่มา: labs.binance.com
ในปี 2018 Binance ได้เปิดตัวส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างฝ่ายการลงทุนและสนันบสนุนการลงทุนที่รวมกันเรียกว่า Binance Labs Incubators ค้นหาและช่วยเหลือบริษัทใหม่ๆ ผ่านขั้นตอนสำคัญของการพัฒนาในช่วงแรกๆ
ทีมบ่มเพาะการลงทุนของ Binance มุ่งเน้นเฉพาะโครงการระยะเริ่มต้นที่น่าสนใจที่ยังไม่ได้ออกโทเค็นหรือเหรียญ และสนับสนุนการพัฒนาเว็บแบบกระจายอำนาจที่เพิ่มขึ้น ตลอดระยะเวลาของโปรแกรมนานกว่าสิบสัปดาห์ โครงการที่ได้รับการบ่มเพาะจะสามารถเข้าถึงการให้คำปรึกษาจากผู้นำธุรกิจในระบบนิเวศของ Binance ตลอดจนการสนับสนุนด้านกฎระเบียบ กฎหมาย และเครือข่ายได้
โครงการที่บ่มเพาะโดย Binance จะได้รับเงินเริ่มต้น 500,000 ดอลลาร์เพื่อแลกกับสัดส่วนการถือหุ้น 10% ในธุรกิจ และยังมีสิทธิ์ได้รับเงินทุนเพิ่มเติมสูงถึง 10 ล้านดอลลาร์อีกด้วย
แม้ว่าทีม Binance Labs จะทำการบ่มเพาะโครงการที่กำลังจะเกิดขึ้นเป็นหลัก และพวกเขายังลงทุนในโครงการที่จัดตั้งขึ้นเช่นกัน กองทุนเพิ่งเข้าร่วมในการระดมทุน Series C ของ Figment ในมูลค่า 110 ล้านดอลลาร์ และนำไปสู่การระดมทุนอีก 60 ล้านดอลลาร์สำหรับแพลตฟอร์มการสร้างบล็อคเชนที่เรียกว่า Multichain
การลงทุนล่าสุดของ Binance Labs อยู่ในแพลตฟอร์มที่เรียกว่า Stepn ซึ่งเป็นแอพไลฟ์สไตล์ Web3 ที่จ่ายคริปโตให้คุณเพื่อรักษาสุขภาพ
Paradigm
ที่มา: www.paradigm.xyz
Paradigm เป็นบริษัทร่วมทุนคริปโตที่มุ่งหวังที่จะ "เป็นพันธมิตรที่รวดเร็วและมีประโยชน์มากที่สุดสำหรับผู้ประกอบการและชุมชนคริปโต"
Fred Ehrsam ผู้ร่วมก่อตั้ง Coinbase ก่อตั้ง Paradigm ในปี 2018 ร่วมกับ Matt Huang อดีตหุ้นส่วนของ Sequoia Capital
ทั้งคู่เปิดตัวกองทุนเนื่องจากความเชื่อร่วมกันที่ว่าคริปโตจะเปลี่ยนระบบการเงินโลกโดยพื้นฐาน และด้วยการลงทุนในผู้ประกอบการคริปโต พวกเขาสามารถใช้ประโยชน์จากการเติบโตที่ไม่เคยมีมาก่อนของภาคส่วนได้
จนถึงตอนนี้ ส่วนใหญ่พวกเขาร่วมมือกับแพลตฟอร์มคริปโตในระยะเริ่มต้น ซึ่งต้องการทั้งคำแนะนำและเงินทุนเพื่อเผยแพร่แนวคิดของพวกเขาออกไป แต่พวกเขายังลงทุนในแนวคิดด้านคริปโตที่ใหญ่กว่าด้วยเช่นกัน เช่น BlockFi, FTX และ Coinbase
พอร์ตการลงทุน ในปัจจุบันของ Paradigm นั้นรวมถึงคริปโตเคอร์เรนซีและโทเค็นที่เลือกสรรแล้ว รวมถึง Bitcoin, Compound และ COSMOS ในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว Paradigm ได้ประกาศ กองทุนร่วมลงทุนใหม่มูลค่า 2.5 พันล้านดอลลาร์ สำหรับคริปโต ซึ่งในขณะนั้นทำให้เป็นกองทุนคริปโตที่ใหญ่ที่สุดที่ยังมีอยู่
บทความนี้มีลิงค์ไปยังเว็บไซต์ของบุคคลที่สามหรือเนื้อหาอื่น ๆ เพื่อจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น ("ไซต์ของบุคคลที่สาม") ไซต์ของบุคคลที่สามไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของ CoinMarketCap และ CoinMarketCap จะไม่รับผิดชอบต่อเนื้อหาของไซต์ของบุคคลที่สาม ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงลิงก์ที่มีอยู่ในไซต์ของบุคคลที่สาม หรือการเปลี่ยนแปลงหรืออัปเดตของบุคคลที่สามที่มีต่อไซต์ของบุคคลที่สาม CoinMarketCap ได้ส่งมอบลิงก์เหล่านี้แก่คุณเพื่อความสะดวกเท่านั้น และการรวมลิงก์ใด ๆ ไม่ได้หมายความถึงการรับรอง การอนุมัติ หรือเป็นการแนะนำโดย CoinMarketCap ของเว็บไซต์หรือการเชื่อมโยงกับผู้ให้บริการ บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้และต้องใช้เพื่อการให้ข้อมูลเท่านั้น มันเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทำการวิจัยและวิเคราะห์ด้วยตัวของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจที่สำคัญใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการใด ๆ ที่ได้อธิบายไว้ บทความนี้ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นและจะไม่ถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน มุมมองและความคิดเห็นที่แสดงในบทความนี้เป็นของผู้เขียน [ของบริษัท] และไม่จำเป็นว่าจะต้องสะท้อนถึงความคิดเห็นของ CoinMarketCap แต่อย่างใด
