Block Header
Block Header เป็นตัวระบุมีความจำเพาะสำหรับบล็อกบนบล็อกเชนที่มีการแฮชอย่างต่อเนื่องเพื่อซัพลาย proof-of-work ให้เป็นสิ่งจูงใจในการขุด
Block Header คืออะไร
Block Header เป็น
วิธีการระบุบล็อกแต่ละบล็อกที่สร้างขึ้นภายในเครือข่าย บล็อกเชน โดยแต่ละบล็อกจะมีส่วนหัวส่วนของตัวเองเพื่ออำนวยความสะดวกในการติดตามการแก้ไขโปรโตคอล มันถูกใช้เพื่อจัดการกับ
บล็อก ทั้งหมดในบล็อกเชน ซึ่งเรียกอีกอย่างว่า
โหนด มันประกอบด้วยชุดข้อมูลทั้งหมด เวลาของบล็อกและระดับความยาก Merkle root ของธุรกรรม และ
nonceเริ่มต้นด้วย 'บล็อกกำเนิด' บล็อกจะเรียงซ้อนกันตามลำดับ โดยส่วนหัวของบล็อกแต่ละตัวจะมีข้อมูลบล็อกสามชุดและส่วนประกอบเฉพาะอื่นๆ ได้แก่:
Block headers มักถูกใช้ใน
เอกสารสำหรับนักพัฒนา Bitcoin เนื่องจากช่วยให้สามารถจัดทำเอกสารที่เกี่ยวกับงานได้ง่ายขึ้นในอัตราที่เร็วขึ้น บล็อกเชนทั้งหมดสามารถบันทึกเป็น
ไฟล์แฟลตหรือฐานข้อมูลธรรมดา ซึ่งคล้ายกับ
vertical stackblock header ประกอบด้วยชุดข้อมูลของบล็อกทั้งสามชุด บล็อกถูกวางอยู่ด้านบนสุดของกันและกัน โดย บล็อกเริ่มต้นจะทำหน้าที่เป็นฐาน บล็อกยังคงเพิ่มความสูงต่อไปจนกระทั่งถึงจุดสิ้นสุดของบล็อกเชนแล้วลำดับก็จะถือว่าเสร็จสมบูรณ์ สิ่งหนึ่งที่ทำให้ Bitcoin มีความปลอดภัยสูงคือเลเยอร์และประวัติศาสตร์อันยาวนานในแต่ละลำดับ
block header จะถูกแฮชเป็นระยะโดย
นักขุด โดยการเปลี่ยนค่าของ nonce ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม
การขุด ตามปกติ เป้าหมายของพวกเขาคือการสร้าง
proof of work ผ่านขั้นตอนนี้ ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาได้รับการชดเชยสำหรับความพยายามในการทำให้ระบบบล็อกเชนทำงานได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ
ส่วนหัวของบล็อกนั้นเหมาะสำหรับการขุดเป็นอย่างมาก แต่ก็มีประโยชน์สำหรับไคลเอ็นต์ขนาดเล็กเช่นกัน เนื่องจากมันมีขนาดที่พอเหมาะ บล็อกเชนของ Bitcoin นั้นมีขนาดที่ใหญ่เกินไปที่จะเก็บไว้ในอุปกรณ์พกพา block headers สำหรับบล็อกที่เหมือนกันจะใช้พื้นที่จัดเก็บเพียง 0.008GB หรือ 8MB เท่านั้น
อุปกรณ์ที่มี
bandwidth หรือพื้นที่จัดเก็บจำกัด ก็สามารถทำการตรวจสอบด้วยวิธีนี้ได้ พวกเขาอาจตรวจสอบว่าธุรกรรมนั้นรวมอยู่ในบล็อกเฉพาะหรือไม่ในภายหลัง เนื่องจาก Merkle root ได้บรรจุธุรกรรมไว้ทั้งหมด สิ่งนี้มาพร้อมกับราคา: ผู้ใช้ยังคงต้องพึ่งพาบุคคลที่สามเพื่อให้ได้ข้อมูลที่พวกเขาต้องการ ในทางกลับกัน Light clients กลับเป็นสิ่งที่เหมาะสมกว่าในระบบที่ผู้ใช้ไม่ต้องทำการยืนยันใดๆ เลย
ในเครือข่ายบล็อกเชน Merkle root คือแฮช (ของแฮชทั้งหมด) ของธุรกรรมทั้งหมดที่ประกอบกันเป็นบล็อก การประทับเวลามีไว้เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคนสามารถดูบันทึกแบบสรุปว่าเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นเมื่อใด โดยปกติมันจะแสดงวันที่และเวลาของเหตุการณ์ และมักจะแม่นยำถึงหลักเสี้ยววินาที
เป้าหมายความยาก (difficulty target) ใช้เพื่อปรับความยากของบล็อกในการแก้ปัญหาสำหรับนักขุด nonce เป็นตัวแปรที่นักขุดอาจปรับแต่งเพื่อการเรียงสับเปลี่ยน (Permutation) ที่แตกต่างกันและแฮชที่ถูกต้องในลำดับ
โดยสรุปแล้ว Block headers ใช้เพื่อกำหนดบล็อกบางบล็อกภายในบล็อกเชน พวกเขาถูกแฮชเพื่อแลกกับค่าตอบแทนจากการขุดเพื่อให้ได้ proof of work